ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ติรุวิตางกูร์"
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560 |
ไม่มีความย่อการแก้ไข ป้ายระบุ: เครื่องมือแก้ไขต้นฉบับปี 2560 |
||
บรรทัด 60: | บรรทัด 60: | ||
'''ราชอาณาจักรแตรวันคอร์''' ({{lang-en|Kingdom of Travancore}}, [[Help:IPA/English|/ˈtrævənkɔːr/]]) หรือ '''ราชอาณาจักรติรุวิตางกูร์''' ([[อักษรโรมัน]]: Thiruvithamkoor) เป็นราชอาณาจักรในอินเดียระหว่างปี 1729 ถึง 1949 ปกครองโดย[[Travancore Royal Family|ราชวงศ์ติรุวิตางกูร์วรรมา]] มีราชธานีอยู่ที่[[Padmanabhapuram|ปัทมานภาปุรัม]] และต่อมาย้ายไป[[Thiruvananthapuram|ติรุวนันตปุรัม]] ในยุครุ่งเรืองสูงสุด อาณาจักรกินพื้นที่ที่ปัจจุบันคือส่วนใหญ่ของ[[รัฐเกรละ]] และพื้นที่ตอนใต้สุดของ[[รัฐทมิฬนาฑู]] (แถบ[[Kanyakumari|กันยากุมารี]]) และยังมีดินแดนแทรกของ[[Thachudaya Kaimal|ตัจจุไตยะไกมาฬ]] ซึ่งคือพื้นที่ของ[[Koodalmanikyam temple|กูฏัลมาณิกยังเกษตรัง]] ในเมือง[[Irinjalakuda|อิริญญาลกุฏะ]]ของ[[Kingdom of Cochin|ราชอาณาจักรโกจจิ]]ที่อยู่ติดกัน<ref>British Archives http://discovery.nationalarchives.gov.uk/details/rd/d3e53001-d49e-4d4d-bcb2-9f8daaffe2e0</ref> ในภายหลัง พื้นที่ของ[[Tangasseri|ตังกัศเศริ]]ของนคร[[Kollam|โกลลัง]] และ[[Anchuthengu|อัญจุเตงู]] ใกล้กับ[[Attingal|อาริงัล]]ใน[[Thiruvananthapuram district|อำเภอติรุวนันตปุรัม]] กลายมาเป็นอาณานิคมอของอังกฤษ และเป็นส่วนหนึ่งของ[[Malabar District|อำเภอมะละบาร์]]จนถึง 30 มิถุนายน 1927 และ [[Tirunelveli district|อำเภอตุรเนลเวลี]] ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 1927<ref name="Mbsp">{{cite book |url=https://www.tamildigitallibrary.in/admin/assets/book/TVA_BOK_0023302_The_Madras_Presidency_1881_1931.pdf |title=The Madras Presidency (1881-1931) |last=Boag |first=GT |publisher=Government of Madras |location=Madras |year=1933 |page=9}}</ref><ref name="Logan">{{Cite book|title=Malabar Manual (Volume-I)|last=Logan|first=William|publisher=Asian Educational Services|year=2010|isbn=9788120604476|location=New Delhi|pages=631–666}}</ref> ติรุวิตางกูร์รวมเข้ากับรัฐมหาราชา[[Kingdom of Cochin|โกจจิ]]ที่อยู่ติดกัน กลายเป็น[[Travancore-Cochin|ติรุวิตางกูร์-โกจจิ]]ในปี 1950 และได้มีการโอนย้ายหมู่บ้านที่พูด[[ภาษาทมิฬ]]เป็นหลัก 5 หมู่บ้านแก่[[Madras State|รัฐมัทราส]]ในปี 1956<ref name="Kerala">{{cite web|url=https://legislative.gov.in/sites/default/files/A1956-37.pdf|title=The States Reorganisation Act, 1956|website=legislative.gov.in|publisher=Government of India}}</ref> ภูมิภาคที่พูด[[ภาษามลยาฬัม]]ที่เหลือนี้ได้รวมเข้ากับ[[Malabar District|อำเภอมะละบาร์]] (ยกเว้น[[Laccadive Islands|หมู่เกาะลักษทวีป]] และ [[Minicoy|มินิกอย]]) กับ[[Kasaragod district|อำเภอกสรโกฏ]] ใน[[South Canara|กานาราใต้]] ของ[[Madras State|รัฐมัทราส]] กลายเป็น[[รัฐเกรละ]]ซึ่งพูดภาษามลยาฬัมเป็นหลักร่วมกัน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1956 ภายใต้[[States Reorganisation Act, 1956|รัฐบัญญัติการจัดการรัฐ]]ของ[[รัฐบาลอินเดีย]]<ref name="Kerala"/> จนถึงปัจจุบัน |
'''ราชอาณาจักรแตรวันคอร์''' ({{lang-en|Kingdom of Travancore}}, [[Help:IPA/English|/ˈtrævənkɔːr/]]) หรือ '''ราชอาณาจักรติรุวิตางกูร์''' ([[อักษรโรมัน]]: Thiruvithamkoor) เป็นราชอาณาจักรในอินเดียระหว่างปี 1729 ถึง 1949 ปกครองโดย[[Travancore Royal Family|ราชวงศ์ติรุวิตางกูร์วรรมา]] มีราชธานีอยู่ที่[[Padmanabhapuram|ปัทมานภาปุรัม]] และต่อมาย้ายไป[[Thiruvananthapuram|ติรุวนันตปุรัม]] ในยุครุ่งเรืองสูงสุด อาณาจักรกินพื้นที่ที่ปัจจุบันคือส่วนใหญ่ของ[[รัฐเกรละ]] และพื้นที่ตอนใต้สุดของ[[รัฐทมิฬนาฑู]] (แถบ[[Kanyakumari|กันยากุมารี]]) และยังมีดินแดนแทรกของ[[Thachudaya Kaimal|ตัจจุไตยะไกมาฬ]] ซึ่งคือพื้นที่ของ[[Koodalmanikyam temple|กูฏัลมาณิกยังเกษตรัง]] ในเมือง[[Irinjalakuda|อิริญญาลกุฏะ]]ของ[[Kingdom of Cochin|ราชอาณาจักรโกจจิ]]ที่อยู่ติดกัน<ref>British Archives http://discovery.nationalarchives.gov.uk/details/rd/d3e53001-d49e-4d4d-bcb2-9f8daaffe2e0</ref> ในภายหลัง พื้นที่ของ[[Tangasseri|ตังกัศเศริ]]ของนคร[[Kollam|โกลลัง]] และ[[Anchuthengu|อัญจุเตงู]] ใกล้กับ[[Attingal|อาริงัล]]ใน[[Thiruvananthapuram district|อำเภอติรุวนันตปุรัม]] กลายมาเป็นอาณานิคมอของอังกฤษ และเป็นส่วนหนึ่งของ[[Malabar District|อำเภอมะละบาร์]]จนถึง 30 มิถุนายน 1927 และ [[Tirunelveli district|อำเภอตุรเนลเวลี]] ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 1927<ref name="Mbsp">{{cite book |url=https://www.tamildigitallibrary.in/admin/assets/book/TVA_BOK_0023302_The_Madras_Presidency_1881_1931.pdf |title=The Madras Presidency (1881-1931) |last=Boag |first=GT |publisher=Government of Madras |location=Madras |year=1933 |page=9}}</ref><ref name="Logan">{{Cite book|title=Malabar Manual (Volume-I)|last=Logan|first=William|publisher=Asian Educational Services|year=2010|isbn=9788120604476|location=New Delhi|pages=631–666}}</ref> ติรุวิตางกูร์รวมเข้ากับรัฐมหาราชา[[Kingdom of Cochin|โกจจิ]]ที่อยู่ติดกัน กลายเป็น[[Travancore-Cochin|ติรุวิตางกูร์-โกจจิ]]ในปี 1950 และได้มีการโอนย้ายหมู่บ้านที่พูด[[ภาษาทมิฬ]]เป็นหลัก 5 หมู่บ้านแก่[[Madras State|รัฐมัทราส]]ในปี 1956<ref name="Kerala">{{cite web|url=https://legislative.gov.in/sites/default/files/A1956-37.pdf|title=The States Reorganisation Act, 1956|website=legislative.gov.in|publisher=Government of India}}</ref> ภูมิภาคที่พูด[[ภาษามลยาฬัม]]ที่เหลือนี้ได้รวมเข้ากับ[[Malabar District|อำเภอมะละบาร์]] (ยกเว้น[[Laccadive Islands|หมู่เกาะลักษทวีป]] และ [[Minicoy|มินิกอย]]) กับ[[Kasaragod district|อำเภอกสรโกฏ]] ใน[[South Canara|กานาราใต้]] ของ[[Madras State|รัฐมัทราส]] กลายเป็น[[รัฐเกรละ]]ซึ่งพูดภาษามลยาฬัมเป็นหลักร่วมกัน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1956 ภายใต้[[States Reorganisation Act, 1956|รัฐบัญญัติการจัดการรัฐ]]ของ[[รัฐบาลอินเดีย]]<ref name="Kerala"/> จนถึงปัจจุบัน |
||
ราชา[[Marthanda Varma|มารตาณฏะ วรรมา]] สืบทอดรัฐฟิวดอลขนาดเล็กที่ชื่อ[[Venad|เวนาท]] มาในปี 1723 และได้สร้างรัฐขึ้นมาจนเป็นรัฐติรุวิตางกูร์ที่มีอำนาจมากใน[[อินเดียใต้]] ราชาเป็นผู้นำรัฐ[[Travancore-Dutch War|รบกับชาวดัตช์]]ในปี 1739–46 และ[[Battle of Colachel|ยุทธการที่โกลาเชล]] ที่ซึ่งดัตช์พ่ายแพ้ ถือเป็นครั้งแรก |
ราชา[[Marthanda Varma|มารตาณฏะ วรรมา]] สืบทอดรัฐฟิวดอลขนาดเล็กที่ชื่อ[[Venad|เวนาท]] มาในปี 1723 และได้สร้างรัฐขึ้นมาจนเป็นรัฐติรุวิตางกูร์ที่มีอำนาจมากใน[[อินเดียใต้]] ราชาเป็นผู้นำรัฐ[[Travancore-Dutch War|รบกับชาวดัตช์]]ในปี 1739–46 และ[[Battle of Colachel|ยุทธการที่โกลาเชล]] ที่ซึ่งดัตช์พ่ายแพ้ ถือเป็นครั้งแรกที่ยุทธการแบบตะวันตกพ่ายให้กับการรบกับชนพื้นเมืองในเอเชีย<ref name="Sanyal2016">{{cite book|author=Sanjeev Sanyal|title=The Ocean of Churn: How the Indian Ocean Shaped Human History|url=https://books.google.com/books?id=oNekDAAAQBAJ&pg=PT183|date=10 August 2016|publisher=Penguin Books Limited|isbn=978-93-86057-61-7|pages=183–}}</ref> จากนั้นราชามารตาณฏะยังได้รบชนะและผนวกรวมรัฐต่าง ๆ เข้ามา รวมถึง[[Zamorin|ซาโมริน]]ซึ่งเป็นรัฐที่แข็งแกร่งที่สุดในแถบ[[History of Kozhikode|โกชิโกเฏ]]ในการรบที่[[Purakkad|ปุรรกาฏ]]ในปี 1755<ref name="AHoT 162">{{cite book|last1=Shungoony Menon|first1=P.|title=A History of Travancore from the Earliest Times|date=1878|publisher=Higgin Botham & Co.|location=Madras|pages=[https://archive.org/details/ahistorytravanc00menogoog/page/n212 162]–164|url=https://archive.org/details/ahistorytravanc00menogoog|access-date=5 May 2016|language=en}}</ref> |
||
ในต้นศตวรรษที่ 19 รัฐกลายมาเป็น[[รัฐมหาราชา]]ภายใต้[[บริติชราช]] และมีการปรับปรุงพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมครั้งใหญ่ในสมัยของ[[Chithira Thirunal Balarama Varma|จิตติระ ติรุนาฬ พลราม วรรมา]] จนเป็นรัฐที่มีการพัฒนาสูงสุดแห่งหนึ่งในปกครองของบริติชอินเดีย<ref name="Travancore 2011">"Travancore." Encyclopædia Britannica. Encyclopædia Britannica Online. Encyclopædia Britannica Inc., 2011. Web. 11 November 2011.</ref><ref>Chandra Mallampalli, Christians and Public Life in Colonial South India, 1863–1937: Contending with Marginality, RoutledgeCurzon, 2004, p. 30</ref> ในปี 1903–1904 รายได้ของรัฐอยู่ที่ 1,02,01,900 รูปี<ref>{{cite web|url=https://dsal.uchicago.edu/reference/gazetteer/pager.html?objectid=DS405.1.I34_V24_023.gif |title=Imperial Gazetteer2 of India, Volume 24, page 17 - Imperial Gazetteer of India - Digital South Asia Library |publisher=Dsal.uchicago.edu |date=2021-01-28 |accessdate=2022-02-15}}</ref> |
ในต้นศตวรรษที่ 19 รัฐกลายมาเป็น[[รัฐมหาราชา]]ภายใต้[[บริติชราช]] และมีการปรับปรุงพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมครั้งใหญ่ในสมัยของ[[Chithira Thirunal Balarama Varma|จิตติระ ติรุนาฬ พลราม วรรมา]] จนเป็นรัฐที่มีการพัฒนาสูงสุดแห่งหนึ่งในปกครองของบริติชอินเดีย<ref name="Travancore 2011">"Travancore." Encyclopædia Britannica. Encyclopædia Britannica Online. Encyclopædia Britannica Inc., 2011. Web. 11 November 2011.</ref><ref>Chandra Mallampalli, Christians and Public Life in Colonial South India, 1863–1937: Contending with Marginality, RoutledgeCurzon, 2004, p. 30</ref> ในปี 1903–1904 รายได้ของรัฐอยู่ที่ 1,02,01,900 รูปี<ref>{{cite web|url=https://dsal.uchicago.edu/reference/gazetteer/pager.html?objectid=DS405.1.I34_V24_023.gif |title=Imperial Gazetteer2 of India, Volume 24, page 17 - Imperial Gazetteer of India - Digital South Asia Library |publisher=Dsal.uchicago.edu |date=2021-01-28 |accessdate=2022-02-15}}</ref> |
รุ่นแก้ไขเมื่อ 02:06, 7 กันยายน 2565
ราชอาณาจักรติรุวิตางกูร์ | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1729–1949 | |||||||||
แผนที่ติรุงวิตางกูร์ | |||||||||
เมืองหลวง | ปัทมานภาปุรัม (1729–1795) ตริวันทรัม (1795–1949) | ||||||||
ภาษาทั่วไป | มลยาฬัม, ทมิฬ | ||||||||
ศาสนา | ฮินดู (หลัก) | ||||||||
การปกครอง | ราชาธิปไตย | ||||||||
มหาราชา | |||||||||
• 1729–1758 (แรก) | มารตาณฏะ วรรมา | ||||||||
• 1829–1846 (ยุคทอง) | สวตี รามา วรรมา | ||||||||
• 1931–1949 (ท้าย) | จิตติระ ติรุนาฬ วรรมา | ||||||||
ดีวัน | |||||||||
• 1729–1736 | อรุมุกกัน ปิลไลย์ | ||||||||
• 1838–1839 (ยุคทอง) | อาร์ เวนกตะ ราว | ||||||||
• 1947-1949 (ท้าย) | พีจีเอ็น อุนนิตัน | ||||||||
ยุคประวัติศาสตร์ | สมัยจักรวรรดิ | ||||||||
• ก่อตั้ง | 1729 | ||||||||
• เข้าร่วมบริษัทอินเดียตะวันออก | 1795 | ||||||||
• รัฐขุนนางในอินเดีย | 1947 | ||||||||
• รวมกับราชอาณาจักรโกจ์จิ | 1949 | ||||||||
• สิ้นสุด | 1949 | ||||||||
พื้นที่ | |||||||||
1941[1] | 19,844 ตารางกิโลเมตร (7,662 ตารางไมล์) | ||||||||
ประชากร | |||||||||
• 1941[1] | 6,070,018 | ||||||||
สกุลเงิน | รูปี | ||||||||
| |||||||||
ปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของ | อินเดีย |
ราชอาณาจักรแตรวันคอร์ (อังกฤษ: Kingdom of Travancore, /ˈtrævənkɔːr/) หรือ ราชอาณาจักรติรุวิตางกูร์ (อักษรโรมัน: Thiruvithamkoor) เป็นราชอาณาจักรในอินเดียระหว่างปี 1729 ถึง 1949 ปกครองโดยราชวงศ์ติรุวิตางกูร์วรรมา มีราชธานีอยู่ที่ปัทมานภาปุรัม และต่อมาย้ายไปติรุวนันตปุรัม ในยุครุ่งเรืองสูงสุด อาณาจักรกินพื้นที่ที่ปัจจุบันคือส่วนใหญ่ของรัฐเกรละ และพื้นที่ตอนใต้สุดของรัฐทมิฬนาฑู (แถบกันยากุมารี) และยังมีดินแดนแทรกของตัจจุไตยะไกมาฬ ซึ่งคือพื้นที่ของกูฏัลมาณิกยังเกษตรัง ในเมืองอิริญญาลกุฏะของราชอาณาจักรโกจจิที่อยู่ติดกัน[2] ในภายหลัง พื้นที่ของตังกัศเศริของนครโกลลัง และอัญจุเตงู ใกล้กับอาริงัลในอำเภอติรุวนันตปุรัม กลายมาเป็นอาณานิคมอของอังกฤษ และเป็นส่วนหนึ่งของอำเภอมะละบาร์จนถึง 30 มิถุนายน 1927 และ อำเภอตุรเนลเวลี ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 1927[3][4] ติรุวิตางกูร์รวมเข้ากับรัฐมหาราชาโกจจิที่อยู่ติดกัน กลายเป็นติรุวิตางกูร์-โกจจิในปี 1950 และได้มีการโอนย้ายหมู่บ้านที่พูดภาษาทมิฬเป็นหลัก 5 หมู่บ้านแก่รัฐมัทราสในปี 1956[5] ภูมิภาคที่พูดภาษามลยาฬัมที่เหลือนี้ได้รวมเข้ากับอำเภอมะละบาร์ (ยกเว้นหมู่เกาะลักษทวีป และ มินิกอย) กับอำเภอกสรโกฏ ในกานาราใต้ ของรัฐมัทราส กลายเป็นรัฐเกรละซึ่งพูดภาษามลยาฬัมเป็นหลักร่วมกัน ในวันที่ 1 พฤศจิกายน 1956 ภายใต้รัฐบัญญัติการจัดการรัฐของรัฐบาลอินเดีย[5] จนถึงปัจจุบัน
ราชามารตาณฏะ วรรมา สืบทอดรัฐฟิวดอลขนาดเล็กที่ชื่อเวนาท มาในปี 1723 และได้สร้างรัฐขึ้นมาจนเป็นรัฐติรุวิตางกูร์ที่มีอำนาจมากในอินเดียใต้ ราชาเป็นผู้นำรัฐรบกับชาวดัตช์ในปี 1739–46 และยุทธการที่โกลาเชล ที่ซึ่งดัตช์พ่ายแพ้ ถือเป็นครั้งแรกที่ยุทธการแบบตะวันตกพ่ายให้กับการรบกับชนพื้นเมืองในเอเชีย[6] จากนั้นราชามารตาณฏะยังได้รบชนะและผนวกรวมรัฐต่าง ๆ เข้ามา รวมถึงซาโมรินซึ่งเป็นรัฐที่แข็งแกร่งที่สุดในแถบโกชิโกเฏในการรบที่ปุรรกาฏในปี 1755[7]
ในต้นศตวรรษที่ 19 รัฐกลายมาเป็นรัฐมหาราชาภายใต้บริติชราช และมีการปรับปรุงพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคมครั้งใหญ่ในสมัยของจิตติระ ติรุนาฬ พลราม วรรมา จนเป็นรัฐที่มีการพัฒนาสูงสุดแห่งหนึ่งในปกครองของบริติชอินเดีย[8][9] ในปี 1903–1904 รายได้ของรัฐอยู่ที่ 1,02,01,900 รูปี[10]
อ้างอิง
- ↑ 1.0 1.1 อ้างอิงผิดพลาด: ป้ายระบุ
<ref>
ไม่ถูกต้อง ไม่มีการกำหนดข้อความสำหรับอ้างอิงชื่อ1941Census
- ↑ British Archives http://discovery.nationalarchives.gov.uk/details/rd/d3e53001-d49e-4d4d-bcb2-9f8daaffe2e0
- ↑ Boag, GT (1933). The Madras Presidency (1881-1931) (PDF). Madras: Government of Madras. p. 9.
- ↑ Logan, William (2010). Malabar Manual (Volume-I). New Delhi: Asian Educational Services. pp. 631–666. ISBN 9788120604476.
- ↑ 5.0 5.1 "The States Reorganisation Act, 1956" (PDF). legislative.gov.in. Government of India.
- ↑ Sanjeev Sanyal (10 August 2016). The Ocean of Churn: How the Indian Ocean Shaped Human History. Penguin Books Limited. pp. 183–. ISBN 978-93-86057-61-7.
- ↑ Shungoony Menon, P. (1878). A History of Travancore from the Earliest Times (ภาษาอังกฤษ). Madras: Higgin Botham & Co. pp. 162–164. สืบค้นเมื่อ 5 May 2016.
- ↑ "Travancore." Encyclopædia Britannica. Encyclopædia Britannica Online. Encyclopædia Britannica Inc., 2011. Web. 11 November 2011.
- ↑ Chandra Mallampalli, Christians and Public Life in Colonial South India, 1863–1937: Contending with Marginality, RoutledgeCurzon, 2004, p. 30
- ↑ "Imperial Gazetteer2 of India, Volume 24, page 17 - Imperial Gazetteer of India - Digital South Asia Library". Dsal.uchicago.edu. 2021-01-28. สืบค้นเมื่อ 2022-02-15.