(Translated by https://www.hiragana.jp/)
ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประวัติศาสตร์สหราชอาณาจักร" - วิกิพีเดีย ข้ามไปเนื้อหา

ผลต่างระหว่างรุ่นของ "ประวัติศาสตร์สหราชอาณาจักร"

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี
เนื้อหาที่ลบ เนื้อหาที่เพิ่ม
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยเว็บอุปกรณ์เคลื่อนที่
ไม่มีความย่อการแก้ไข
ป้ายระบุ: แก้ไขแบบเห็นภาพ แก้ไขด้วยอุปกรณ์เคลื่อนที่ แก้ไขด้วยเว็บอุปกรณ์เคลื่อนที่
 
บรรทัด 2: บรรทัด 2:
{{ประวัติศาสตร์หมู่เกาะอังกฤษ}}
{{ประวัติศาสตร์หมู่เกาะอังกฤษ}}
{{ใช้ปีคศ|width=300px}}
{{ใช้ปีคศ|width=300px}}
'''ประวัติศาสตร์สหราชอาณาจักร''' ({{lang-en|'''History of the United Kingdom'''}}) เป็นประวัติศาสตร์ของอาณาจักรที่เกิดจากการรวมตัวของ[[ราชอาณาจักรอังกฤษ]]ที่รวมทั้ง[[ราชอาณาจักรเวลส์]] กับ [[ราชอาณาจักรสกอตแลนด์]]เป็นอาณาจักรเดียวกันเมื่อวันที่ [[1 พฤษภาคม]][[ค.ศ. 1707]] ตาม[[สนธิสัญญาสหภาพ]] (Treaty of Union) ที่ลงนามกันเมื่อวันที่ [[22 กรกฎาคน]][[ค.ศ. 1706]]<ref>{{cite web|url=http://www.nationalarchives.gov.uk/pathways/citizenship/rise_parliament/docs/articles_union.htm|title=Articles of Union with Scotland 1707|publisher=www.parliament.uk|df=dmy-all|accessdate=19 October 2008}}</ref> พระราชบัญญัติได้รับการอนุมัติทั้งโดย[[รัฐสภาแห่งอังกฤษ]]และ[[รัฐสภาแห่งสกอตแลนด์]] แต่ละสภาก็ผ่าน[[พระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ. 1707|พระราชบัญญัติสหภาพ]] ก่อนหน้านั้น[[ราชอาณาจักรอังกฤษ]]และ[[ราชอาณาจักรสกอตแลนด์]]เป็นราชอาณาจักรอิสระที่แยกจากกันแม้ว่าจะมี[[การปกครองโดยพระมหากษัตริย์ร่วม]] (Union of the Crowns) กันมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1603 เมื่อ[[สมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์]]ทรงขึ้นครองราชย์ต่อจาก[[สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ]]เป็น[[สมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ]] การรวมตัวกันในปี ค.ศ. 1707 ทำให้เกิด[[ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่]]<ref>{{cite web|url=http://www.scotshistoryonline.co.uk/union.html|title=THE TREATY or Act of the Union|publisher=www.scotshistoryonline.co.uk|df=dmy-all|accessdate=27 August 2008|archive-date=2019-05-27|archive-url=https://web.archive.org/web/20190527074630/http://www.scotshistoryonline.co.uk/union.html|url-status=dead}}</ref> ที่มีพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญองค์เดียวกันและรัฐสภาร่วมกันที่[[เวสต์มินสเตอร์]] นักประวัติศาสตร์[[ไซมอน ชามา]] (Simon Schama) กล่าวถึงราชอาณาจักรใหม่ว่า “เรื่องที่เริ่มโดยการรวมตัวกันอย่างคู่อริกลายมาเป็นรวมตัวของหุ้นส่วนที่กลายมาเป็นสิ่งที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก...ซึ่งเป็นเหตุการณ์ของความเปลี่ยนแปลงที่น่าฉงนที่สุดใน[[ประวัติศาสตร์ยุโรป]]”<ref>{{cite episode|title=Britannia Incorporated|series=A History of Britain|series-link=Simon Schama's A History of Britain|credits=Simon Schama (presenter)|network=BBC One|airdate=2001-05-22|number=10|minutes=3|df=dmy-all}}</ref> พระราชบัญญัติฉบับต่อมา[[พระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ. 1800|พระราชบัญญัติสหภาพ]] (Act of Union (1800)) ที่ออกในปี ค.ศ. 1800 รวม[[ราชอาณาจักรไอร์แลนด์]]ที่ทำให้เกิด[[สหราชอาณาจักรแห่งบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์]]
'''ประวัติศาสตร์สหราชอาณาจักร''' ({{lang-en|'''History of the United Kingdom'''}}) เป็นประวัติศาสตร์ของอาณาจักรที่เกิดจากการรวมตัวของ[[ราชอาณาจักรอังกฤษ]]ที่รวมทั้ง[[ราชอาณาจักรเวลส์]] กับ [[ราชอาณาจักรสกอตแลนด์]]เป็นอาณาจักรเดียวกันเมื่อวันที่ [[1 พฤษภาคม]][[ค.ศ. 1707]] ตาม[[สนธิสัญญาสหภาพ]] (Treaty of Union) ที่ลงนามกันเมื่อวันที่ [[22 กรกฎาคน]][[ค.ศ. 1706]]<ref>{{cite web|url=http://www.nationalarchives.gov.uk/pathways/citizenship/rise_parliament/docs/articles_union.htm|title=Articles of Union with Scotland 1707|publisher=www.parliament.uk|df=dmy-all|accessdate=19 October 2008}}</ref> พระราชบัญญัติได้รับการอนุมัติทั้งโดย[[รัฐสภาแห่งอังกฤษ]]และ[[รัฐสภาแห่งสกอตแลนด์]] แต่ละสภาก็ผ่าน[[พระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ. 1707|พระราชบัญญัติสหภาพ]] ก่อนหน้านั้น[[ราชอาณาจักรอังกฤษ]]และ[[ราชอาณาจักรสกอตแลนด์]]เป็นราชอาณาจักรอิสระที่แยกจากกันแม้ว่าจะมี[[การปกครองโดยพระมหากษัตริย์ร่วม]] (Union of the Crowns) กันมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1603 เมื่อ[[สมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์]]ทรงขึ้นครองราชย์ต่อจาก[[สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษ]]เป็น[[สมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ]] การรวมตัวกันในปี ค.ศ. 1707 ทำให้เกิด[[ราชอาณาจักรบริเตนใหญ่]]<ref>{{cite web|url=http://www.scotshistoryonline.co.uk/union.html|title=THE TREATY or Act of the Union|publisher=www.scotshistoryonline.co.uk|df=dmy-all|accessdate=27 August 2008|archive-date=2019-05-27|archive-url=https://web.archive.org/web/20190527074630/http://www.scotshistoryonline.co.uk/union.html|url-status=dead}}</ref> ที่มีพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญองค์เดียวกันและรัฐสภาร่วมกันที่[[เวสต์มินสเตอร์]] นักประวัติศาสตร์[[ไซมอน ชามา]] (Simon Schama) กล่าวถึงราชอาณาจักรใหม่ว่า “เรื่องที่เริ่มโดยการรวมตัวกันอย่างคู่อริกลายมาเป็นรวมตัวของหุ้นส่วนที่กลายมาเป็นสิ่งที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก...ซึ่งเป็นเหตุการณ์ของความเปลี่ยนแปลงที่น่าฉงนที่สุดใน[[ประวัติศาสตร์ยุโรป]]”<ref>{{cite episode|title=Britannia Incorporated|series=A History of Britain|series-link=Simon Schama's A History of Britain|credits=Simon Schama (presenter)|network=BBC One|airdate=2001-05-22|number=10|minutes=3|df=dmy-all}}</ref> พระราชบัญญัติฉบับต่อมา[[พระราชบัญญัติสหภาพ ค.ศ. 1800|พระราชบัญญัติสหภาพ]] (Act of Union (1800)) ที่ออกในปี ค.ศ. 1800 รวม[[ราชอาณาจักรไอร์แลนด์]]ที่ทำให้เกิด[[สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์]]


ก่อนหน้า ค.ศ. 1707 [[ประวัติศาสตร์หมู่เกาะอังกฤษ]]เป็นประวัติศาสตร์ที่เริ่มตั้งแต่สมัย[[เคลท์]], [[บริเตนสมัยโรมัน|การรุกรานของโรมัน]]ในบริเวณตอนใต้ของแม่น้ำฟอร์ธที่รวมบริเตนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ[[จักรวรรดิโรมัน]] หลังจากนั้นก็เป็นการขยายตัวของ[[อังกฤษสมัยแองโกล-แซ็กซอน|แองโกล-แซ็กซอน]] ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึง 6, การรุกรานของ[[ไวกิง]]ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ไปจนถึง[[ชัยชนะของชาวนอร์มันต่ออังกฤษ]]ในปี ค.ศ. 1066 ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 อังกฤษและสกอตแลนด์ก็แยกตัวจากกัน เกาะบริเตนใหญ่มิได้รับการรุกรานที่สำคัญอีกหลังจากปี ค.ศ. 1066 ซึ่งทำให้ทั้งอังกฤษและสกอตแลนด์ต่างก็มีโอกาสวิวัฒนาการระบบการปกครองที่กลายมาเป็นรากฐานของการรวมตัวกันเป็นสหราชอาณาจักร
ก่อนหน้า ค.ศ. 1707 [[ประวัติศาสตร์หมู่เกาะอังกฤษ]]เป็นประวัติศาสตร์ที่เริ่มตั้งแต่สมัย[[เคลท์]], [[บริเตนสมัยโรมัน|การรุกรานของโรมัน]]ในบริเวณตอนใต้ของแม่น้ำฟอร์ธที่รวมบริเตนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของ[[จักรวรรดิโรมัน]] หลังจากนั้นก็เป็นการขยายตัวของ[[อังกฤษสมัยแองโกล-แซ็กซอน|แองโกล-แซ็กซอน]] ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึง 6, การรุกรานของ[[ไวกิง]]ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ไปจนถึง[[ชัยชนะของชาวนอร์มันต่ออังกฤษ]]ในปี ค.ศ. 1066 ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 อังกฤษและสกอตแลนด์ก็แยกตัวจากกัน เกาะบริเตนใหญ่มิได้รับการรุกรานที่สำคัญอีกหลังจากปี ค.ศ. 1066 ซึ่งทำให้ทั้งอังกฤษและสกอตแลนด์ต่างก็มีโอกาสวิวัฒนาการระบบการปกครองที่กลายมาเป็นรากฐานของการรวมตัวกันเป็นสหราชอาณาจักร
บรรทัด 8: บรรทัด 8:
ประวัติศาสตร์ในสมัยแรกของ[[สหราชอาณาจักร]]เห็นการ[[การปฏิวัติจาโคเบียน]] (Jacobite rising) ที่ได้รับความพ่ายแพ้ใน[[ยุทธการคัลโลดัน]] (Battle of Culloden) และในปี ค.ศ. 1746 ต่อมาในชัยชนะใน[[สงครามเจ็ดปี]] ในปี ค.ศ. 1763 ที่ทำให้[[จักรวรรดิบริติช]]กลายเป็นมหาอำนาจที่มีอำนาจมากที่สุดมหาอำนาจหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1921 จักรวรรดิบริติชก็มีประชากรทั้งหมดราว 458 ล้านคน ราวหนึ่งในสี่ของประชากรของโลก<ref>Angus Maddison. ''The World Economy: A Millennial Perspective'' (p. 98, 242). Organisation for Economic Co-operation and Development, Paris, 2001.</ref>
ประวัติศาสตร์ในสมัยแรกของ[[สหราชอาณาจักร]]เห็นการ[[การปฏิวัติจาโคเบียน]] (Jacobite rising) ที่ได้รับความพ่ายแพ้ใน[[ยุทธการคัลโลดัน]] (Battle of Culloden) และในปี ค.ศ. 1746 ต่อมาในชัยชนะใน[[สงครามเจ็ดปี]] ในปี ค.ศ. 1763 ที่ทำให้[[จักรวรรดิบริติช]]กลายเป็นมหาอำนาจที่มีอำนาจมากที่สุดมหาอำนาจหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1921 จักรวรรดิบริติชก็มีประชากรทั้งหมดราว 458 ล้านคน ราวหนึ่งในสี่ของประชากรของโลก<ref>Angus Maddison. ''The World Economy: A Millennial Perspective'' (p. 98, 242). Organisation for Economic Co-operation and Development, Paris, 2001.</ref>


ในปี ค.ศ. 1922 ดินแดนที่ปัจจุบันเป็น[[สาธารรัฐไอร์แลนด์]]ก็ได้รับอิสรภาพ เหลือแต่[[ไอร์แลนด์เหนือ]]ที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ฉะนั้นในปี ค.ศ. 1927 สหราชอาณาจักรจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ”<ref>{{Cite web |url=https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/geos/uk.html |title=CIA - The World Factbook - United Kingdom |access-date=2009-05-27 |archive-date=2019-01-07 |archive-url=https://web.archive.org/web/20190107065049/https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/geos/uk.html |url-status=dead }}</ref> ที่เรียกสั้นๆ ว่า “สหราชอาณาจักร” หลัง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] อาณานิคมต่างๆ ของจักรวรรดิบริติชก็ได้รับอิสรภาพ ในบรรดาประเทศเหล่านี้ต่อมาก็มาเป็นสมาชิกของ[[เครือจักรภพแห่งชาติ]]ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศอิสระ<ref>Lloyd, T. O. (1996). The British Empire, 1558-1995. 2nd ed. The short Oxford history of the modern world. Oxford: Oxford University Press. ISBN 9780198731337</ref> บางประเทศก็ยังมี[[พระมหากษัตริย์อังกฤษ]]เป็น[[ประมุข]]
ในปี ค.ศ. 1922 ดินแดนที่ปัจจุบันเป็น[[สาธารรัฐไอร์แลนด์]]ก็ได้รับอิสรภาพ เหลือแต่[[ไอร์แลนด์เหนือ]]ที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ฉะนั้นในปี ค.ศ. 1927 สหราชอาณาจักรจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ”<ref>{{Cite web |url=https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/geos/uk.html |title=CIA - The World Factbook - United Kingdom |access-date=2009-05-27 |archive-date=2019-01-07 |archive-url=https://web.archive.org/web/20190107065049/https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/geos/uk.html |url-status=dead }}</ref> ที่เรียกสั้นๆ ว่า “สหราชอาณาจักร” หลัง[[สงครามโลกครั้งที่สอง]] อาณานิคมต่างๆ ของจักรวรรดิบริติชก็ได้รับอิสรภาพ ในบรรดาประเทศเหล่านี้ต่อมาก็มาเป็นสมาชิกของ[[เครือจักรภพแห่งชาติ]]ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศอิสระ<ref>Lloyd, T. O. (1996). The British Empire, 1558-1995. 2nd ed. The short Oxford history of the modern world. Oxford: Oxford University Press. ISBN 9780198731337</ref> บางประเทศก็ยังมี[[พระมหากษัตริย์สหราชอาณาจักร]]เป็น[[ประมุข]]


== อ้างอิง ==
== อ้างอิง ==

รุ่นแก้ไขปัจจุบันเมื่อ 09:59, 10 มกราคม 2567




ประวัติศาสตร์หมู่เกาะอังกฤษ

แบ่งตามลำดับเหตุการณ์

แบ่งตามประเทศ

แบ่งตามหัวเรื่อง

ประวัติศาสตร์สหราชอาณาจักร (อังกฤษ: History of the United Kingdom) เป็นประวัติศาสตร์ของอาณาจักรที่เกิดจากการรวมตัวของราชอาณาจักรอังกฤษที่รวมทั้งราชอาณาจักรเวลส์ กับ ราชอาณาจักรสกอตแลนด์เป็นอาณาจักรเดียวกันเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมค.ศ. 1707 ตามสนธิสัญญาสหภาพ (Treaty of Union) ที่ลงนามกันเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคนค.ศ. 1706[1] พระราชบัญญัติได้รับการอนุมัติทั้งโดยรัฐสภาแห่งอังกฤษและรัฐสภาแห่งสกอตแลนด์ แต่ละสภาก็ผ่านพระราชบัญญัติสหภาพ ก่อนหน้านั้นราชอาณาจักรอังกฤษและราชอาณาจักรสกอตแลนด์เป็นราชอาณาจักรอิสระที่แยกจากกันแม้ว่าจะมีการปกครองโดยพระมหากษัตริย์ร่วม (Union of the Crowns) กันมตั้งแต่ปี ค.ศ. 1603 เมื่อสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 6 แห่งสกอตแลนด์ทรงขึ้นครองราชย์ต่อจากสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 1 แห่งอังกฤษเป็นสมเด็จพระเจ้าเจมส์ที่ 1 แห่งอังกฤษ การรวมตัวกันในปี ค.ศ. 1707 ทำให้เกิดราชอาณาจักรบริเตนใหญ่[2] ที่มีพระมหากษัตริย์ภายใต้รัฐธรรมนูญองค์เดียวกันและรัฐสภาร่วมกันที่เวสต์มินสเตอร์ นักประวัติศาสตร์ไซมอน ชามา (Simon Schama) กล่าวถึงราชอาณาจักรใหม่ว่า “เรื่องที่เริ่มโดยการรวมตัวกันอย่างคู่อริกลายมาเป็นรวมตัวของหุ้นส่วนที่กลายมาเป็นสิ่งที่มีอำนาจมากที่สุดในโลก...ซึ่งเป็นเหตุการณ์ของความเปลี่ยนแปลงที่น่าฉงนที่สุดในประวัติศาสตร์ยุโรป[3] พระราชบัญญัติฉบับต่อมาพระราชบัญญัติสหภาพ (Act of Union (1800)) ที่ออกในปี ค.ศ. 1800 รวมราชอาณาจักรไอร์แลนด์ที่ทำให้เกิดสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์

ก่อนหน้า ค.ศ. 1707 ประวัติศาสตร์หมู่เกาะอังกฤษเป็นประวัติศาสตร์ที่เริ่มตั้งแต่สมัยเคลท์, การรุกรานของโรมันในบริเวณตอนใต้ของแม่น้ำฟอร์ธที่รวมบริเตนเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมัน หลังจากนั้นก็เป็นการขยายตัวของแองโกล-แซ็กซอน ระหว่างคริสต์ศตวรรษที่ 5 ถึง 6, การรุกรานของไวกิงในคริสต์ศตวรรษที่ 9 ไปจนถึงชัยชนะของชาวนอร์มันต่ออังกฤษในปี ค.ศ. 1066 ในคริสต์ศตวรรษที่ 9 อังกฤษและสกอตแลนด์ก็แยกตัวจากกัน เกาะบริเตนใหญ่มิได้รับการรุกรานที่สำคัญอีกหลังจากปี ค.ศ. 1066 ซึ่งทำให้ทั้งอังกฤษและสกอตแลนด์ต่างก็มีโอกาสวิวัฒนาการระบบการปกครองที่กลายมาเป็นรากฐานของการรวมตัวกันเป็นสหราชอาณาจักร

ประวัติศาสตร์ในสมัยแรกของสหราชอาณาจักรเห็นการการปฏิวัติจาโคเบียน (Jacobite rising) ที่ได้รับความพ่ายแพ้ในยุทธการคัลโลดัน (Battle of Culloden) และในปี ค.ศ. 1746 ต่อมาในชัยชนะในสงครามเจ็ดปี ในปี ค.ศ. 1763 ที่ทำให้จักรวรรดิบริติชกลายเป็นมหาอำนาจที่มีอำนาจมากที่สุดมหาอำนาจหนึ่งในประวัติศาสตร์ เมื่อมาถึงปี ค.ศ. 1921 จักรวรรดิบริติชก็มีประชากรทั้งหมดราว 458 ล้านคน ราวหนึ่งในสี่ของประชากรของโลก[4]

ในปี ค.ศ. 1922 ดินแดนที่ปัจจุบันเป็นสาธารรัฐไอร์แลนด์ก็ได้รับอิสรภาพ เหลือแต่ไอร์แลนด์เหนือที่ยังเป็นส่วนหนึ่งของสหราชอาณาจักร ฉะนั้นในปี ค.ศ. 1927 สหราชอาณาจักรจึงเปลี่ยนชื่อเป็น “สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ”[5] ที่เรียกสั้นๆ ว่า “สหราชอาณาจักร” หลังสงครามโลกครั้งที่สอง อาณานิคมต่างๆ ของจักรวรรดิบริติชก็ได้รับอิสรภาพ ในบรรดาประเทศเหล่านี้ต่อมาก็มาเป็นสมาชิกของเครือจักรภพแห่งชาติซึ่งเป็นกลุ่มประเทศอิสระ[6] บางประเทศก็ยังมีพระมหากษัตริย์สหราชอาณาจักรเป็นประมุข

อ้างอิง

[แก้]
  1. "Articles of Union with Scotland 1707". www.parliament.uk. สืบค้นเมื่อ 19 ตุลาคม 2008.
  2. "THE TREATY or Act of the Union". www.scotshistoryonline.co.uk. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 27 พฤษภาคม 2019. สืบค้นเมื่อ 27 สิงหาคม 2008.
  3. Simon Schama (presenter) (22 พฤษภาคม 2001). "Britannia Incorporated". A History of Britain. ตอน 10. 3 นาที. BBC One.
  4. Angus Maddison. The World Economy: A Millennial Perspective (p. 98, 242). Organisation for Economic Co-operation and Development, Paris, 2001.
  5. "CIA - The World Factbook - United Kingdom". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2019-01-07. สืบค้นเมื่อ 2009-05-27.
  6. Lloyd, T. O. (1996). The British Empire, 1558-1995. 2nd ed. The short Oxford history of the modern world. Oxford: Oxford University Press. ISBN 9780198731337

ดูเพิ่ม

[แก้]

แหล่งข้อมูลอื่น

[แก้]