รัฐร่วมประมุข
รัฐร่วมประมุข หรือ การรวมตัวเป็นสหราชอาณาจักร (อังกฤษ: personal union) เป็นการรวมรัฐอิสระมากกว่าสองรัฐขึ้นไปภายใต้การปกครองของพระมหากษัตริย์องค์เดียวกัน ในขณะที่พรมแดน, กฎหมาย และ นโยบายของอาณาจักรในกลุ่มยังคงเป็นตัวของตัวเอง[1][2] สหราชไม่ใช่ “สหพันธรัฐ” (federation) ที่เป็นที่ยอมรับกันว่าเป็นหลายรัฐที่รวมเข้ามาเป็นรัฐเดียวกันและมีพรมแดน, กฎหมาย และ นโยบายส่วนใหญ่ร่วมกัน หรือ “สหราชวงศ์” (dynastic union) ซึ่งหมายถึงการรวมภายใต้ราชวงศ์เดียวกัน แต่กระนั้นความหมายระหว่าง “สหราช” และ “สหพันธรัฐ” ก็มีความเกี่ยวพันกัน และ “สหราช” มักจะวิวัฒนาการมาเป็น “สหพันธรัฐ”
การรวมตัวกันเป็น “สหราช” อาจจะเกิดขึ้นจากเหตุผลหลายประการตั้งแต่การเกิดขึ้นโดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมกันเช่นการเสกสมรสระหว่าง “สมเด็จพระราชินีนาถ” (queen regnant) ของราชอาณาจักรหนึ่ง กับ พระมหากษัตริย์ของอีกราชอาณาจักรหนึ่ง ซึ่งทำให้พระราชโอรสของทั้งสองพระองค์ก็จะได้รับราชบังลังก์ของทั้งสองราชอาณาจักร ไปจนถึงการผนวกดินแดน การรวมตัวกันอาจจะเป็นตามบทบัญญัติทางกฎหมาย เช่นการผ่านพระราชบัญญัติในรัฐสภาระบุการรวมตัวกัน หรืออาจจะโดยพฤตินัยซึ่งง่ายต่อการแยกตัวกลับไปเป็นอาณาจักรเดิม เช่นในกรณีที่เกิดขึ้นหลังจากการเสด็จสวรรคตของกษัตริย์ของบรรดาอาณาจักรร่วมที่มีระบบการสืบสันตติวงศ์ที่ต่างกัน
“สหราช” ส่วนใหญ่จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในระบบราชาธิปไตยเท่านั้น และบางครั้งก็จะใช้คำว่า “สหราชาธิปไตย” (dual monarchy) ในการแสดงแสดงว่าเป็นการรวมอาณาจักรของสองราชบัลลังก์
รายการข้างล่างแสดงให้เห็นถึงรายระเอียดของการรวมเป็นสหราชอาณาจักรตลอดมาในประวัติศาสตร์ ยกเว้นแต่ในกรณีของราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญของเครือจักรภพบริติชเช่นออสเตรเลีย, นิวซีแลนด์ และแคนาดา[3] ซึ่งไม่ใช่การรวมเป็นสหราชอาณาจักรของโลกยุคปัจจุบัน[2]
นอกจากนั้นคำว่า “การรวมสหอำนาจ” ยังใช้เป็นเครื่องมือทางการเมืองที่ใช้โดยนาซีเยอรมนีในการรวมตำแหน่งระดับสูงในพรรคกรรมกรชาติสังคมนิยมเยอรมัน[4] เครื่องมือทางการเมืองเดียวกันนี้นำมาใช้โดยรัฐบาลอื่นๆ เช่นสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งคล้ายกันกับ “ผู้ได้รับการแต่งตั้ง” (persona designata) ที่เป็นระบบที่เจ้าหน้าที่ทางศาลสามารถแต่งตั้งให้ผู้ไม่มีหน้าที่ทางศาลมีความรับผิดชอบในหน้าที่กึ่งเกี่ยวกับระบบยุติธรรมภายใต้ระบบคอมมอนลอว์
อันดอร์รา
อันดอร์รากึ่งรวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรและต่อมาสหอำนาจกับฝรั่งเศสมาตั้งแต่ ค.ศ. 1607 (พระมหากษัตริย์และต่อมาประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประมุขของอันดอร์รา ประมุขอีกองค์หนึ่งคือพระสังฆราชของสังฆมณฑลอัวร์เกลล์ของกาตาลุญญาในสเปน)
อารากอน
ในปี ค.ศ. 1162 พระเจ้าอัลฟอนโซที่ 1 แห่งอารากอนเป็นพระมหากษัตริย์องค์แรกที่ได้รับบรรดาศักดิ์เป็น “พระมหากษัตริย์แห่งอารากอนและเคานท์แห่งบาร์เซโลนา” ผู้ปกครองดินแดนที่ต่อมาเป็น “ราชบัลลังก์อารากอน” (Crown of Aragon) ซึ่งไม่ใช่ราชอาณาจักรอารากอน (Kingdom of Aragon) ต่อมาพระเจ้าไชเมที่ 1 แห่งอารากอนก็ทรงก่อตั้งและเพิ่มเติมราชอาณาจักรบาเลนเซียเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของราชบัลลังก์อารากอน และต่อมาชาร์ลส์แห่งเก้นท์หรือพระเจ้าคาร์ลที่ 1 แห่งสเปน หรือ สมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5 แห่งโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ก็รวมอารากอนและคาสตีลที่เป็น “รัฐร่วมประมุข” ที่ต่อมากลายมาเป็นสเปน
อยุธยา
ในปี พ.ศ. 1921 (ค.ศ. 1378) อาณาจักรอยุธยารุกรานอาณาจักรสุโขทัยและผนวกเข้าเป็นรัฐบริวารของตน หลังจากที่พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) เสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 1981 (ค.ศ. 1446) โดยปราศจากรัชทายาท สมเด็จพระบรมราชาธิราชที่ 2 ทรงส่งพระราเมศวรขึ้นไปครองเมืองพิษณุโลก ซึ่งต่อมาในปี พ.ศ. 1991 (ค.ศ. 1448) พระราเมศวรได้ขึ้นสืบราชสมบัติต่อจากพระบิดาเป็นพระเจ้ากรุงศรีอยุธยานามว่า "สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ" ทำให้ทั้งสองอาณาจักรถูกรวมเข้าไว้ใต้การปกครองของพระมหากษัตริย์องค์เดียวกัน ในด้านการปกครอง ทั้งสองอาณาจักรยังคงดำรงรัฐบาลของตนแยกออกจากกัน โดยรัฐบาลกรุงสุโขทัย ณ เมืองพิษณุโลก มีสายสัมพันธ์อันแนบแน่นกับรัฐบาลกรุงศรีอยุธยาตลอดช่วงรัชกาลของพระบรมไตรโลกนาถ และหลังจากที่พระบรมไตรโลกนาถเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2031 (ค.ศ. 1488) อาณาจักรจึงถูกแบ่งออกอีกครั้งโดยสมเด็จพระบรมราชาปกครองอาณาจักรอยุธยา ส่วนสมเด็จพระเชษฐาธิราชปกครองอาณาจักรสุโขทัย และหลังจากสมเด็จพระบรมราชาเสด็จสวรรคตในปี พ.ศ. 2034 (ค.ศ. 1491) สมเด็จพระเชษฐาธิราชจึงรับมรดกในฐานะรัฐร่วมประมุขอีกครั้ง
ภายหลังที่กรุงสุโขทัยถูกกรุงหงสาวดีตีแตกและกลายเป็นรัฐบริวารของพม่าในปี พ.ศ. 2106 (ค.ศ. 1563) พระเจ้าบุเรงนองทรงแต่งตั้งขุนพิเรนทรเทพในขณะนั้นขึ้นเป็นกษัตริย์ประเทศราช ลำตับต่อมากรุงศรีอยุธยาจึงถูกรุกรานเป็นรัฐประเทศราชของกรุงหงสาวดีในปี พ.ศ. 2112 (ค.ศ. 1569) ขุนพิเรนทรเทพทรงถูกสถาปนาให้ปกครองกรุงศรีอยุธยาในฐานะ สมเด็จพระมหาธรรมราชาธิราช โดยมีพระมหาอุปราช สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ครองกรุงสุโขทัย ต่อมาเมื่อพระเจ้าบุเรงนองสวรรคต พระเจ้านันทบุเรงไม่ไว้พระทัยพระเจ้ากรุงสุโขทัยและทรงรุกรานอาณาจักรไทยอีกครั้งในศึกแม่น้ำสะโตงในปี พ.ศ. 2126 (ค.ศ. 1583) ซึ่งหลังจากศึกครั้งดังกล่าว สมเด็จพระนเรศวรมหาราชจึงทรงโยกย้ายผู้คนจากอาณาจักรสุโขทัยไปรวมกับอาณาจักรอยุธยา ทำให้อาณาจักรทั้งสองถูกรวมเข้าด้วยกันโดยสมบูรณ์
โบฮีเมีย
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับโปแลนด์ระหว่าง ค.ศ. 1003 จนถึง ค.ศ. 1004 (โบฮีเมียยึดครองโดยโปแลนด์)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับโปแลนด์ระหว่าง ค.ศ. 1300 จนถึง ค.ศ. 1306 และฮังการีระหว่าง ค.ศ. 1301 จนถึง ค.ศ. 1305 (พระเจ้าเวนสลาสที่ 2 และ พระเจ้าเวนสลาสที่ 3)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับลักเซมเบิร์กระหว่าง ค.ศ. 1313 จนถึง ค.ศ. 1378 และระหว่าง ค.ศ. 1383 จนถึง ค.ศ. 1388
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับฮังการีระหว่าง ค.ศ. 1419 จนถึง ค.ศ. 1439 (ซิจิสมุนด์แห่งลักเซมเบิร์กและพระชามาดา) และระหว่าง ค.ศ. 1490 จนถึง ค.ศ. 1526 (ราชวงศ์ยาเจลลอน)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับออสเตรียและฮังการีระหว่าง ค.ศ. 1526 จนถึง ค.ศ. 1918 (นอกจากระหว่าง ค.ศ. 1619 จนถึง ค.ศ. 1620)
บรันเดินบวร์ค
รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับดัชชีแห่งปรัสเซีย ระหว่าง ค.ศ. 1618 เมื่ออัลเบร็คท์ เฟรเดอริค ดยุคแห่งปรัสเซียเสียชีวิตโดยไม่มีรัชทายาทชายและลูกเขยโยฮันน์ ซิจิสมุนด์ อีเล็คเตอร์แห่งบรันเดินบวร์คกลายเป็นประมุขของทั้งสองราชอาณาจักร แต่บรันเดินบวร์คและปรัสเซียต่างก็มีรัฐบาลที่เป็นเอกเทศ และที่ตั้งเมืองบริหารอยู่ของราชอาณาจักรอยู่ที่เบอร์ลิน และเคอนิกสบวร์กตามลำดับมาจนถึง ค.ศ. 1701 เมื่อพระเจ้าฟรีดริชที่ 1 ทรงรวมสองรัฐบาลเข้าด้วยกันเป็นรัฐบาลเดียว
บราซิล
รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับโปรตุเกสภายใต้สมเด็จพระจักรพรรดิเปโดรที่ 1 แห่งบราซิล (พระเจ้าปีเตอร์ที่ 4 แห่งโปรตุเกส) เป็นสหราชอาณาจักรโปรตุเกส, บราซิล และ อัลการ์เวส ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1826 จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1826 ปีเตอร์ทรงดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าฟ้าหลวงแห่งโปรตุเกส, บราซิล และ อัลการ์เวส และเมื่อพระองค์ทรงประกาศอิสรภาพจากโปรตุเกสในปี ค.ศ. 1822 พระองค์ก็เป็นพระจักรพรรดิองค์แรก และเมื่อพระเจ้าจอห์นที่ 6 แห่งโปรตุเกสพระราชบิดาเสด็จสวรรคตพระเจ้าปีเตอร์ก็เป็นพระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกสด้วยแต่ก็เพียงไม่กี่สัปดาห์ เมื่อทรงสละราชสมบัติให้แก่พระราชธิดาเจ้าหญิงมาเรีย กลอเรีย
อาณาจักรในเครือจักรภพ
- ปรัชญา “รัฐร่วมประมุข” มีการเสนอเพื่อรักษาเสรีรัฐไอร์แลนด์ (Irish Free State) ให้อยู่ภายในอาณาจักรในเครือจักรภพ (Commonwealth Realm)[5]
- วลี “รัฐร่วมประมุข” ปรากฏในการโต้เถียงในระยะแรกของการพยายามก่อตั้งเครือจักรภพแห่งชาติ[6] แต่การเข้าเป็นสมาชิกของเครือจักรภพก็มีผู้แย้ง[7] การรวมตัวเป็นเครือจักรภพตรงกับคำนิยามของ “การรวมเป็นสหอำนาจ” แต่จะว่าว่าเป็นการรวมราชบัลลังก์ในบริบทของการบริหารปัจจุบันก็ยังไม่เป็นที่แน่ใจ[ต้องการอ้างอิง] and b) ซึ่งอาจจะเป็นการใช้คำที่ผิดกาละ (anachronism) นอกจากนั้นก็ยังเป็นที่กังขากันว่าการปกครองโดยพระมหากษัตริย์องค์เดียวกันจะตรงกับความหมายของวลี “รัฐร่วมประมุข” เพราะราชบัลลังก์ของประเทศที่เข้าร่วมมิได้แยกจากกันอย่างเป็นเอกเทศ[ต้องการอ้างอิง]
เสรีรัฐคองโก
รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับเบลเยียม ระหว่าง ค.ศ. 1885 จนถึง ค.ศ. 1908 เมื่อคองโกเป็นอาณานิคมของเบลเยียม
โครเอเชีย
ราชอาณาจักรโครเอเชีย และราชอาณาจักรฮังการีรวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรในปี ค.ศ. 1102 ภายใต้พระมหากษัตริยฮังการี[8] รายละเอียดของการรวมตัวระบุในข้อตกลงสหภาพ (Pacta conventa) ที่ระบุการก่อตั้งโครเอเชียเป็นรัฐเอกเทศที่บริหารโดยซาบอร์ (สภาขุนนางโครเอเชีย) และอุปราช นอกจากนั้นขุนนางโครเอเชียก็ยังคงรักษาที่ดินและทรัพย์สิน และ ตำแหน่งที่มีอยู่ได้[9] การรวมตัวของฮังการีและโครเอเชียในยุคกลางเกิดขึ้นจาก “รัฐร่วมประมุข” และดำเนินต่อมาจนถึงยุทธการโมเฮ็คส์ในปี ค.ศ. 1526 เมื่อวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1527 ขุนนางโครเอเชียมีมติเป็นเอกฉันท์เลือกอาร์คดยุคเฟอร์ดินานด์แห่งออสเตรียและผู้สืบเชื้อสายจากพระองค์เป็นพระมหากษัตริย์และรัชทายาท[10] แต่โดยทางการแล้วสหราชอาณาจักรฮังการี-โครเอเชียก็มีอยู่ต่อมาจนต้นคริสต์ศตวรรษที่ 20 และ สนธิสัญญาไทรอานอน[11]
เดนมาร์ก
- พระเจ้าสเวน ฟอร์คเบียร์ดปกครองทั้ง เดนมาร์ก และ อังกฤษ ระหว่าง ค.ศ. 1013 จนถึง ค.ศ. 1014
- พระเจ้าคานูทมหาราชปกครองทั้งเดนมาร์ก และ อังกฤษ ระหว่าง ค.ศ. 1016 จนถึง ค.ศ. 1035
- พระเจ้าฮาร์ธาคานูท ปกครองทั้งเดนมาร์ก และ อังกฤษ ระหว่าง ค.ศ. 1040 จนถึง ค.ศ. 1042
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับนอร์เวย์ ระหว่าง ค.ศ. 1380 จนถึง ค.ศ. 1814 (คณะองคมนตรีนอร์เวย์ (Riksråd) ถูกยุบเลิกในปี ค.ศ. 1536)
- อยู่กลุ่มสหราชอาณาจักรคาลมาร์ร่วมกับนอร์เวย์และสวีเดน ระหว่าง ค.ศ. 1389 จนถึง ค.ศ. 1521 (บางครั้งก็ไม่มีประสิทธิภาพ)[คลุมเครือ]
- พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์กในขณะเดียวกันก็เป็นดยุคแห่งชเลสวิชและฮ็อลชไตน์ระหว่าง ค.ศ. 1460 จนถึง ค.ศ. 1864 (ฮ็อลชไตน์จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ที่เป็นส่วนหนึ่งของเยอรมนี)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับไอซ์แลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1918 จนถึง ค.ศ. 1944 เมื่อไอซ์แลนด์เป็นสาธารณรัฐ
อังกฤษ
- พระเจ้าสเวน ฟอร์คเบียร์ดปกครองทั้งอังกฤษ และ เดนมาร์กระหว่าง ค.ศ. 1013 จนถึง ค.ศ. 1014
- พระเจ้าคานูทมหาราชปกครองทั้งอังกฤษ และ เดนมาร์กระหว่าง ค.ศ. 1016 จนถึง ค.ศ. 1035
- พระเจ้าฮาร์ธาคานูทปกครองทั้งอังกฤษ และ เดนมาร์กระหว่าง ค.ศ. 1040 จนถึง ค.ศ. 1042
- พระเจ้าเฮนรีที่ 6 ปกครองทั้งอังกฤษ และ ฝรั่งเศส ระหว่าง ค.ศ. 1422 จนถึง ค.ศ. 1453
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับไอร์แลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1541 (เมื่อไอร์แลนด์ได้รับการเลื่อนฐานะขึ้นเป็นราชอาณาจักร) จนถึง ค.ศ. 1707
- พระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปนเป็นพระมหากษัตริย์ร่วมราชบัลลังก์อังกฤษ (ร่วมกับสมเด็จพระราชินีนาถแมรี) ระหว่าง ค.ศ. 1554 จนถึง ค.ศ. 1558 ในขณะเดียวกันพระองค์ก็ทรงเป็นพระมหากษัตริย์แห่งเนเปิลส์ (ระหว่าง ค.ศ. 1554) และพระมหากษัตริย์แห่งสเปน (ระหว่าง ค.ศ. 1556)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับสกอตแลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1603 จนถึง ค.ศ. 1707 (เมื่อรวมตัวกันเป็นราชอาณาจักรบริเตนใหญ่)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับเนเธอร์แลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1689 จนถึง ค.ศ. 1702 เมื่อประมุขของดัตช์ (Stadtholder) วิลเลียมแห่งออเรนจ์ มาเป็นพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ, สกอตแลนด์ และ ไอร์แลนด์ สถานการณ์นี้ค่อนข้างจะซับซ้อนเมื่อจังหวัดดัตช์ที่รวมทั้ง ฮอลแลนด์, เซแลนด์, อูเทร็คท์, เกลเดอร์แลนด์ และ โอเฟอไรส์เซิล เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ “สหราชอาณาจักร” ในปี ค.ศ. 1689 และ เดรนเทอ ในปี ค.ศ. 1696 จะมีก็เพียงสองจังหวัดที่มิได้เข้าร่วม: ฟรีสแลนด์ และ โกรนิงเง็น
ฟินแลนด์
ในฐานะเป็นราชรัฐฟินแลนด์ปกครองโดยซาร์แห่งรัสเซียในฐานะแกรนด์ดยุคแห่งฟินแลนด์ระหว่าง ค.ศ. 1809 จนถึง ค.ศ. 1917 ตามความเห็นของชาวฟินแลนด์ลักษณะของการรวมตัวคล้ายกับ “รัฐร่วมประมุข”[ต้องการอ้างอิง] ตามสนธิสัญญาเฟรดริคสฮัมน์ (Treaty of Fredrikshamn) ฟินแลนด์เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิรัสเซีย และได้พระราชทานฐานะให้เป็นเขตปกครองตนเองโดยพระเจ้าซาร์ แต่สิทธินี้ก็มาถูกเพิกถอน (Russification of Finland) เป็นการชั่วคราวต่อมา
ฝรั่งเศส
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับดัชชีแห่งเบอร์กันดี ระหว่าง ค.ศ. 1361, when พระเจ้าจอห์นที่ 2 แห่งฝรั่งเศสได้ครองดัชชี จนถึง ค.ศ. 1363 เมื่อทรงยกให้แก่พระราชโอรสฟิลิปเดอะโบลด์
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับราชอาณาจักรอังกฤษ ระหว่าง ค.ศ. 1422 เมื่อพระเจ้าเฮนรีที่ 6 ขึ้นครองราชบัลลังก์ฝรั่งเศสจนถึง ค.ศ. 1453 เมื่อทรงถูกขับออกจากฝรั่งเศสโดยพระเจ้าชาร์ลที่ 7 แห่งฝรั่งเศส
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับดัชชีแห่งบริตานี ระหว่าง ค.ศ. 1491 เมื่อดัชเชสแอนน์แห่งบริตานีเสกสมรสกับ พระเจ้าชาร์ลส์ที่ 8 แห่งฝรั่งเศสโดยการถูกบังคับ จนถึง ค.ศ. 1532 เมื่อดัชชีแห่งบริตานีถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรฝรั่งเศส
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับราชอาณาจักรนาวาร์ ระหว่าง ค.ศ. 1589 จนถึง ค.ศ. 1620 เมื่อนาวาร์ถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรฝรั่งเศส
- 'กึ่งรวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับอันดอร์รา ตั้งแต่ ค.ศ. 1607 (พระมหากษัตริย์และต่อมาประธานาธิบดีฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประมุขของอันดอร์รา ประมุขอีกองค์หนึ่งคือพระสังฆราชของสังฆมณฑลอัวร์เกลล์ของกาตาลุญญาในสเปน)
ข้อสังเกต: ในคริสต์ศตวรรษที่ 17 ปัญหาที่ก่อให้เกิดสงครามสืบราชบัลลังก์สเปนคือความหวาดระแวงของการสืบราชบัลลังก์สเปนที่ระบุโดยกฎหมายสเปน ที่มีผลทำให้หลุยส์ผู้เป็นรัชทายาทของฝรั่งเศสอยู่แล้วจะได้ครองสเปนด้วยโดยสิทธิ “รัฐร่วมประมุข” ซึ่งเป็นการทำให้เสถียรภาพของมหาอำนาจในยุโรปขาดความสมดุล (ฝรั่งเศสขณะนั้นเป็นประเทศที่มีอานุภาพทางทหารมากกว่าผู้ใดในยุโรปและสเปนก็เป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุด)
บริเตนใหญ่
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับไอร์แลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1707 โดยพระราชบัญญัติสหภาพ ในปี ค.ศ. 1801 (เมื่อรวมกันเป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับฮาโนเวอร์เมื่อพระเจ้าจอร์จที่ 1ขึ้นครองราชย์ในปี ค.ศ. 1714 ตามที่ระบุในพระราชบัญญัติสหภาพ ในปี ค.ศ. 1801 เมื่อบริเตนใหญ่กลายเป็นสหราชอาณาจักร (และต่อมาจนถึง ค.ศ. 1837)
ฮาโนเวอร์
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับราชอาณาจักรสกอตแลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1714 จนถึง ค.ศ. 1801
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1801 จนถึง ค.ศ. 1837 เมื่อความแตกต่างของกฎการสืบสันตติวงศ์ของสองราชอาณาจักรเป็นผลให้สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียไม่มีสิทธิในการครองฮาโนเวอร์ได้ ฮาโนเวอร์จึงตกไปเป็นของพระปิตุลาเออร์เนสต์ ออกัสตัส
จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับสเปน ระหว่าง ค.ศ. 1519 จนถึง ค.ศ. 1556 ในรัชสมัยของสมเด็จพระจักรพรรดิคาร์ลที่ 5
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับฮังการี ระหว่าง ค.ศ. 1526 จนถึง ค.ศ. 1806
ฮังการี
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับโปแลนด์ และ โบฮีเมีย ระหว่าง ค.ศ. 1301 จนถึง ค.ศ. 1305
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับโปแลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1370 จนถึง ค.ศ. 1382 ในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 1 สมัยประวัติศาสตร์ของโปแลนด์ในช่วงนี้บางครั้งก็เรียกว่า "ประวัติศาสตร์โปแลนด์ยุคกลาง" (Andegawen Poland) พระเจ้าหลุยส์ทรงได้รับราชบัลลังก์โปแลนด์จากพระปิตุลาทางฝ่ายพระราชมารดาคาสิเมียร์ที่ 3 เมื่อพระเจ้าหลุยส์เสด็จสวรรคนขุนนางโปแลนด์ก็ตัดสินใจยุติ “การรวมตัว” เพราะไม่ต้องการที่จะถูกปกครองโดยฮังการี และเลือกพระราชธิดาองค์รองของพระเจ้าหลุยส์ ยัดวิกา (Jadwiga of Poland) ขึ้นเป็นประมุของค์ใหม่ ขณะที่พระราชธิดาองค์โตแมรีได้ฮังการี ฮังการีมารวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับโปแลนด์เป็นครั้งที่สองระหว่าง ค.ศ. 1440 จนถึง ค.ศ. 1444
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับโบฮีเมียระหว่าง ค.ศ. 1419 จนถึง ค.ศ. 1439 และ ระหว่าง ค.ศ. 1490 จนถึง ค.ศ. 1918
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ระหว่าง ค.ศ. 1410 จนถึง ค.ศ. 1439 และ ระหว่าง ค.ศ. 1526 จนถึง ค.ศ. 1806 (นอกจากระหว่าง ค.ศ. 1608 จนถึง ค.ศ. 1612)
- รวมตัวกับออสเตรีย ระหว่าง ค.ศ. 1867 จนถึง ค.ศ. 1918
อินโดนีเซีย: บันจาร์
- รวมตัวกับรัฐสุลต่านเดอมัก ระหว่าง ค.ศ. 1525 จนถึง ค.ศ. 1548 เมือสุลต่านปาเต็ะ รัอดืมที่ 2 เสด็จสวรรคตในปี 1547
ไอซ์แลนด์
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับเดนมาร์ก ระหว่าง ค.ศ. 1918 จนถึง ค.ศ. 1944 เมื่อไอซ์แลนด์เปลี่ยนไปเป็นสาธารณรัฐ
ไอร์แลนด์
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับอังกฤษ ระหว่าง ค.ศ. 1541 (เมื่อรัฐสภาแห่งไอร์แลนด์ประกาศให้พระเจ้าเฮนรีที่ 8เป็นพระมหากษัตริย์แห่งไอร์แลนด์) จนถึง ค.ศ. 1707 (เมื่อก่อตั้งเป็นบริเตนใหญ่)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับสกอตแลนด์ (และอังกฤษ) ระหว่าง ค.ศ. 1603 จนถึง ค.ศ. 1707 (เมื่ออังกฤษ และ สกอตแลนด์รวมตัวกันเป็นราชอาณาจักรบริเตนใหญ่)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับเนเธอร์แลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1689 จนถึง ค.ศ. 1702 เมื่อพระมหากษัตริย์แห่งไอร์แลนด์, สกอตแลนด์ และ อังกฤษ ครองจังหวัดส่วนใหญ่ในเนเธอร์แลนด์ สถานการณ์นี้ค่อนข้างจะซับซ้อนเมื่อจังหวัดดัตช์ที่รวมทั้ง ฮอลแลนด์, เซแลนด์, อูเทร็คท์, เกลเดอร์แลนด์ และ Overijssel เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ “สหราชอาณาจักร” ในปี ค.ศ. 1689 และ Drenthe ในปี ค.ศ. 1696 จะมีก็เพียงสองจังหวัดที่มิได้เข้าร่วม: ฟรีสแลนด์ และ โกรนิงเง็น
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับเกรตบริเตน ระหว่าง ค.ศ. 1707 จนถึง ค.ศ. 1801 (เมื่อรวมตัวกันเป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับฮาโนเวอร์ ระหว่าง ค.ศ. 1714 จนถึง ค.ศ. 1837 เมื่อสมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียเสด็จขึ้นครองราชย์
- รวมตัวกับบริเตนใหญ่เป็นสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ระหว่าง ค.ศ. 1922 จนถึง ค.ศ. 1937/ค.ศ. 1949
ลิทัวเนีย
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับโปแลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1386 จนถึง ค.ศ. 1401, ต่อมาระหว่าง ค.ศ. 1447 จนถึง ค.ศ. 1569 (ยกเว้นในปี ค.ศ. 1492 จนถึง ค.ศ. 1501) - สหราชอาณาจักรโปแลนด์-ลิทัวเนีย ในปี ค.ศ. 1569 กลายมาเป็นเครือจักรภพโปแลนด์-ลิทัวเนียต่อมา
ลักเซมเบิร์ก
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับโบฮีเมีย ระหว่าง ค.ศ. 1313 จนถึง ค.ศ. 1378 และระหว่าง ค.ศ. 1383 จนถึง ค.ศ. 1388
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับ เนเธอร์แลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1815 จนถึง ค.ศ. 1890
นาวาร์
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับฝรั่งเศส ระหว่าง ค.ศ. 1589 จนถึง ค.ศ. 1620 เมื่ออองรีแห่งนาวาร์ขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าเฮนรีที่ 4 ฝรั่งเศส หลังจากนั้นนาวาร์ก็กลายเป็นส่วนหนึ่งของฝรั่งเศส
เนเธอร์แลนด์
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับอังกฤษ, สกอตแลนด์ และ ไอร์แลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1689 จนถึง ค.ศ. 1702 เมื่อประมุขของดัตช์ (Stadtholder) วิลเลียมแห่งออเรนจ์ มาเป็นพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ, สกอตแลนด์ และ ไอร์แลนด์ สถานการณ์นี้ค่อนข้างจะซับซ้อนเมื่อสหพันธ์จังหวัดของสาธารณรัฐดัตช์เป็นจังหวัดอิสระ การเข้ารวมตัวจึงค่อยเป็นค่อยไป เริ่มด้วยจังหวัดดัตช์ที่รวมทั้ง ฮอลแลนด์, เซแลนด์, อูเทร็คท์, เกลเดอร์แลนด์ และ Overijssel เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ “สหราชอาณาจักร” ในปี ค.ศ. 1689 และ Drenthe ในปี ค.ศ. 1696 จะมีก็เพียงสองจังหวัดที่มิได้เข้าร่วม: ฟรีสแลนด์ และ โกรนิงเง็น
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับลักเซมเบิร์ก ระหว่าง ค.ศ. 1815 จนถึง ค.ศ. 1890
นอร์เวย์
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับสวีเดน ระหว่าง ค.ศ. 1319 จนถึง ค.ศ. 1343
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับเดนมาร์ก ระหว่าง ค.ศ. 1380 จนถึง ค.ศ. 1814 (คณะองคมนตรีนอร์เวย์ (Riksråd) ถูกยุบเลิกในปี ค.ศ. 1536)
- อยู่กลุ่มสหราชอาณาจักรคาลมาร์ร่วมกับเดนมาร์ก และ สวีเดน ระหว่าง ค.ศ. 1389 จนถึง ค.ศ. 1521 (บางครั้งก็ไม่มีประสิทธิภาพ)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับสวีเดน ระหว่าง ค.ศ. 1814 (เมื่อนอร์เวย์ประกาศตัวเป็นอิสรจากเดนมาร์ก และเมื่อสวีเดนบังคับการรวมตัว (Swedish campaign against Norway)) จนถึง ค.ศ. 1905
โปแลนด์
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับโบฮีเมียระหว่าง ค.ศ. 1300 จนถึง ค.ศ. 1306, และกับฮังการีระหว่าง ค.ศ. 1301 จนถึง ค.ศ. 1305, (พระเจ้าเวนสลาสที่ 2 และ พระเจ้าเวนสลาสที่ 3)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับฮังการี ระหว่าง ค.ศ. 1370 จนถึง ค.ศ. 1382 และระหว่าง ค.ศ. 1440 จนถึง ค.ศ. 1444
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับลิทัวเนียตามพระราชบัญญัติสหภาพเครโว (Union of Krewo) ระหว่าง ค.ศ. 1386 จนถึง ค.ศ. 1401, ต่อมาระหว่าง ค.ศ. 1447 จนถึงพระราชบัญญัติสหภาพลูบลิน (Union of Lublin) ในปี ค.ศ. 1569 (ยกเว้นระหว่าปี ค.ศ. 1492 ถึง ค.ศ. 1501) ที่เรียกกันว่าสหราชอาณาจักรโปแลนด์-ลิทัวเนีย ในปี ค.ศ. 1569 ที่ต่อมากลายเป็นเครือจักรภพโปแลนด์-ลิทัวเนีย
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับอาณาจักรเลือกตั้งแห่งแซกโซนี ระหว่าง ค.ศ. 1697 จนถึง ค.ศ. 1706, ระหว่าง ค.ศ. 1709 จนถึง ค.ศ. 1733, และระหว่าง ค.ศ. 1734 จนถึง ค.ศ. 1763
- ทางตะวัออก: รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับรัสเซีย ระหว่าง ค.ศ. 1814 จนถึง ค.ศ. 1832 ที่เรียกว่าคองเกรสโปแลนด์; หลังจากการปราบการปฏิวัติทางทหารแล้วโปแลนด์ก็ถูกผนวกโดยรัสเซีย
โปแลนด์-ลิทัวเนีย
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับสวีเดน ระหว่าง ค.ศ. 1592 จนถึง ค.ศ. 1599
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับแซกโซนี ระหว่าง ค.ศ. 1697 จนถึง ค.ศ. 1705, ระหว่าง ค.ศ. 1709 จนถึง ค.ศ. 1733 และ ระหว่าง ค.ศ. 1733 จนถึง ค.ศ. 1763
โปรตุเกส
- รวมเป็นสหภาพไอบีเรียกับสเปน ระหว่าง ค.ศ. 1580 จนถึง ค.ศ. 1640 ในรัชสมัยของพระเจ้าฟิลิปที่ 2 (หรือพระเจ้าฟิลิปที่ 1 แห่งโปรตุเกส) พระราชโอรสพระเจ้าฟิลิปที่ 3 และพระราชนัดดาพระเจ้าฟิลิปที่ 4
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับบราซิลภายใต้พระเจ้าปีเตอร์ที่ 1 แห่งบราซิล (พระเจ้าปีเตอร์ที่ 4 แห่งโปรตุเกส) เป็นสหราชอาณาจักรโปรตุเกส, บราซิล และ อัลการ์เวส ตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม ค.ศ. 1826 จนถึงวันที่ 28 พฤษภาคม ค.ศ. 1826 ปีเตอร์ทรงดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าฟ้าหลวงแห่งโปรตุเกส, บราซิล และ อัลการ์เวส และเมื่อพระองค์ทรงประกาศอิสรภาพจากโปรตุเกสในปี ค.ศ. 1822 พระองค์ก็เป็นพระจักรพรรดิองค์แรก และเมื่องพระเจ้าจอห์นที่ 6 แห่งโปรตุเกสพระราชบิดาเสด็จสวรรคตพระเจ้าปีเตอร์ก็เป็นพระมหากษัตริย์แห่งโปรตุเกสด้วยแต่ก็เพียงไม่กี่สัปดาห์ เมื่อทรงสละราชสมบัติให้แก่พระราชธิดาเจ้าหญิงมาเรีย กลอเรีย
โรมาเนีย
- รัฐร่วมประมุขระหว่างวาลลาเชีย และ ทรานซิลเวเนีย ระหว่าง ค.ศ. 1599 จนถึง ค.ศ. 1600 ภายใต้การปกครองของมิคาเอลเดอะเบรฟ
- รัฐร่วมประมุขระหว่างวาลลาเชีย มอลโดเวีย และ ทรานซิลเวเนีย ระหว่าง ค.ศ. 1600 จนถึง ค.ศ. 1601 ภายใต้การปกครองของมิคาเอลเดอะเบรฟ
- รัฐร่วมประมุขระหว่างวาลลาเชีย และ มอลโดเวีย ระหว่าง ค.ศ. 1859 จนถึง ค.ศ. 1862 ภายใต้การปกครองของอเล็กซานเดอร์ จอห์น คูซา
แซ็กซ์-ไวมาร์ และ แซ็กซ์-ไอเซ็นนาค
ดัชชีแห่งแซ็กซ์-ไวมาร์ และ แซ็กซ์-ไอเซ็นนาครวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรระหว่าง ค.ศ. 1741 เมื่อราชวงศ์ที่ปกครองแซ็กซ์-ไอเซ็นนาคมาสิ้นสุดลง จนถึง ค.ศ. 1809 เมื่อรวมตัวกันเป็นดัชชีเดียวกันเป็นแซ็กซ์-ไวมาร์-ไอเซ็นนาค
ชเลสวิช และ ฮ็อลชไตน์
พระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์กดำรงตำแหน่งเป็นดยุคแห่งชเลสวิช และ ฮ็อลชไตน์ ระหว่างปี ค.ศ. 1460 จนถึง ค.ศ. 1864 (ฮ็อลชไตน์เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ขณะที่ชเลสวิชเป็นส่วนหนึ่งของเดนมาร์ก) สถานะการณ์ยิ่งเพิ่มความสับสนเมื่อบางครั้งดัชชีทั้งสองถูกแบ่งระหว่างสาขาต่างๆ ของราชวงศ์โอลเดนบวร์ก (ราชวงศที่ปกครองเดนมาร์กและชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์) นอกจากดัชชี "หลัก" แห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-กลึคชตัดท์ที่ปกครองโดยพระมหากษัตริย์แห่งเดนมาร์ก ก็ยังมีรัฐที่มีดินแดนอื่นที่อยู่ในดัชชีทั้งสองด้วย ที่สำคัญก็ได้แก่ดยุคแห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-ก็อททอร์พ และดยุคที่ขึ้นอยู่กับดยุคแห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-ก็อททอร์พ -- ดยุคแห่งชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-เบ็ค, ชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-ซอนเดนบวร์ก-ออกัสเตนบวร์ก และ ชเลสวิช-ฮ็อลชไตน์-ซอนเดนบวร์ก-กลึคบวร์ก
สกอตแลนด์
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับฝรั่งเศส ระหว่าง ค.ศ. 1559 จนถึง ค.ศ. 1560
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับอังกฤษ และ ไอร์แลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1603 จนถึง ค.ศ. 1707 (เมื่ออังกฤษ และ สกอตแลนด์รวมตัวกันเป็นราชอาณาจักรเกรตบริเตน)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับ เนเธอร์แลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1689 จนถึง ค.ศ. 1702 เมื่อประมุขของดัตช์ (Stadtholder) วิลเลียมแห่งออเรนจ์ มาเป็นพระมหากษัตริย์แห่งอังกฤษ, สกอตแลนด์ และ ไอร์แลนด์ สถานการณ์นี้ค่อนข้างจะซับซ้อนเมื่อสหพันธ์จังหวัดของสาธารณรัฐดัตช์เป็นจังหวัดอิสระ การเข้ารวมตัวจึงค่อยเป็นค่อยไป เริ่มด้วยจังหวัดดัตช์ที่รวมทั้ง ฮอลแลนด์, เซแลนด์, อูเทร็คท์, เกลเดอร์แลนด์ และ Overijssel เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของ “สหราชอาณาจักร” ในปี ค.ศ. 1689 และ Drenthe ในปี ค.ศ. 1696 จะมีก็เพียงสองจังหวัดที่มิได้เข้าร่วม: ฟรีสแลนด์ และ โกรนิงเง็น
สเปน
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับที่ต่อมาเป็นสเปน (ราชบัลลังก์คาสตีล และ ราชบัลลังก์อารากอน) และ จักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ระหว่าง ค.ศ. 1519 จนถึง ค.ศ. 1556 ในรัชสมัยของคาร์ลที่ 1 (Charles V, Holy Roman Emperor) คาสตีลและอารากอนเป็นสหราชอาณาจักรระหว่าง ค.ศ. 1556 จนถึง ค.ศ. 1707 หลังจากนั้นจึงรวมตัวกันเป็นสเปน
- สหภาพไอบีเรียรวมอาณาจักรทั้งหมดในคาบสมุทรไอบีเรียรวมทั้งโปรตุเกสโปรตุเกสระหว่าง ค.ศ. 1580 จนถึง ค.ศ. 1640 ภายใต้พระเจ้าฟิลิปที่ 2 แห่งสเปน (หรือพระเจ้าฟิลิปที่ 1 แห่งโปรตุเกส), พระราชโอรสพระเจ้าฟิลิปที่ 3 และพระราชนัดดาพระเจ้าฟิลิปที่ 4
สวีเดน
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับนอร์เวย์ ระหว่าง ค.ศ. 1319 จนถึง ค.ศ. 1343
- อยู่กลุ่มสหราชอาณาจักรคาลมาร์ร่วมกับเดนมาร์ก and นอร์เวย์ ระหว่าง ค.ศ. 1389 จนถึง ค.ศ. 1521 (บางครั้งก็ไม่มีประสิทธิภาพ)
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับโปแลนด์-ลิทัวเนีย ระหว่าง ค.ศ. 1592 จนถึง ค.ศ. 1599
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับนอร์เวย์ ระหว่าง ค.ศ. 1814 จนถึง ค.ศ. 1905 (บางครั้งก็เรียกว่าสวีเดน-นอร์เวย์)
สหราชอาณาจักร
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับฮาโนเวอร์ ระหว่าง ค.ศ. 1801 จนถึง ค.ศ. 1837 เมื่อความแตกต่างของกฎการสืบสันตติวงศ์ของสองราชอาณาจักรเป็นผลให้สมเด็จพระราชินีนาถวิกตอเรียไม่มีสิทธิในการครองฮาโนเวอร์ได้ ฮาโนเวอร์จึงตกไปเป็นของพระปิตุลาเออร์เนสต์ ออกัสตัส
- รวมตัวเป็นสหราชอาณาจักรกับเสรีรัฐไอร์แลนด์ ระหว่าง ค.ศ. 1922 จนถึง ค.ศ. 1937/ค.ศ. 1949
อ้างอิง
- ↑ Lalor, ed. Various authors. See Contents. Cyclopaedia of Political Science. New York: Maynard, Merrill, and Co., ed. John Joseph Lalor, 1899. online version เก็บถาวร 2008-02-06 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน; accessed 21 June 2008
- ↑ 2.0 2.1 Oppenheim, Lassa; Roxbrough, Ronald (2005). International Law: A Treatise. The Lawbook Exchange. ISBN 978-1-58477-609-3. สืบค้นเมื่อ 13 June 2013.
- ↑ "สำเนาที่เก็บถาวร". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-11-18. สืบค้นเมื่อ 2009-09-27.
- ↑ Steinweis, A.E. (1996). Art, Ideology, and Economics in Nazi Germany. UNC Press. p. 60.
- ↑ Mansergh, Nicholas (1934). The Irish Free State - Its Government and Politics. Read Books. p. 263.
- ↑ F. R. Scott (January 1944). "The End of Dominion Status". The American Journal of International Law. 38 (1): 34–49. doi:10.2307/2192530.
The common kinship within the British group today establishes a form of personal union
- ↑ P. E. Corbett (1940). "The Status of the British Commonwealth in International Law". The University of Toronto Law Journal. 3 (2): 348–359. doi:10.2307/824318.
{{cite journal}}
: CS1 maint: date and year (ลิงก์) - ↑ "Croatia (History)". Encarta. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2009-10-31. สืบค้นเมื่อ 2009-09-27.
- ↑ "Croatia (History)". Britannica.
- ↑ R. W. SETON -WATSON:The southern Slav question and the Habsburg Monarchy page 18
- ↑ "Font, Marta:Hungarian Kingdom and Croatia in the Middle Age". คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2017-08-01. สืบค้นเมื่อ 2009-09-27.