รอย โจนส์ จูเนียร์
รอย โจนส์ จูเนียร์ | |
---|---|
เกิด | รอย ลีเวสตา โจนส์ จูเนียร์ 16 มกราคม พ.ศ. 2512 |
สถิติเหรียญโอลิมปิก | ||
---|---|---|
มวยสากลสมัครเล่น | ||
โอลิมปิกฤดูร้อน | ||
โซล 1988 | ไลท์มิดเดิลเวท |
รอย โจนส์ จูเนียร์ (อังกฤษ: Roy Jones, Jr.) มีชื่อจริงว่า รอย ลีเวสตา โจนส์ จูเนียร์ (Roy Levesta Jones, Jr.) นักมวยสากลชาวอเมริกัน เขาคืออดีตแชมป์โลกสี่รุ่น และได้รับการยอมรับอย่างมากว่าเป็นหนึ่งในนักมวยที่เก่งที่สุดตลอดกาล
ประวัติ
[แก้]รอย โจนส์ จูเนียร์ มีชื่อเสียงโด่งดังมาตั้งแต่ยังชกมวยสากลสมัครเล่นอยู่ เมื่อติดทีมชาติสหรัฐอเมริกา ในรุ่นไลท์มิดเดิลเวท ในการแข่งขันโอลิมปิกที่โซล ประเทศเกาหลีใต้ โจนส์สามารถผ่านไปจนถึงรอบชิงชนะเลิศได้ แต่ปรากฏว่าเมื่อต้องพบกับ พัก ซี-ฮัน นักมวยเจ้าภาพ โจนส์ถูกปล้นชัยชนะไปอย่างหน้าตาเฉย โดยแพ้คะแนนไปอย่างขัดสายตาคนดูทั้งโลก ซึ่งผลการชกในครั้งนี้ถือเป็นข้อครหาข้อหนึ่งของการแข่งขันโอลิมปิกครั้งนี้เลยทีเดียว
หลังจากนั้น จึงหันมาชกมวยสากลอาชีพ มีสถิติชนะรวด โดยไม่มีแพ้หรือเสมอ จนได้มีโอกาสชิงแชมป์โลก IBF รุ่นมิดเดิลเวท ที่ว่างอยู่กับ เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์ นักมวยเพื่อนร่วมชาติ ผลปรากฏว่าโจนส์เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อย่างเอกฉันท์เมื่อครบ 12 ยก เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2536
ในรุ่นนี้โจนส์ป้องกันแชมป์เพียงครั้งเดียว โดยชนะน็อกไปในยกที่ 2 จากนั้นจึงสละเข็มขัดขึ้นไปชกในรุ่นที่ใหญ่กว่าเดิม คือ ซูเปอร์มิดเดิลเวท และได้ชิงแชมป์โลก IBF ในรุ่นนี้ของ กับ เจมส์ โทนีย์ ยอดนักชกไร้พ่ายในเวลานั้น ปรากฏว่าโจนส์ก็สามารถเอาชนะได้อย่างขาดลอยอีกเมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน พ.ศ. 2537
รอย โจนส์ จูเนียร์ ป้องกันตำแหน่งแชมป์ซูเปอร์มิดเดิลเวทไว้ได้ทั้งหมด 5 ครั้ง แล้วจึงสละแชมป์ขยับขึ้นไปชกในรุ่นไลท์เฮฟวีเวท จนได้โอกาสชิงแชมป์เฉพาะกาลที่ว่างของ WBC กับ ไมค์ แม็คคัลลัม ก็ปรากฏว่าโจนส์ก็เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อีกเมื่อวันที่ 22 พฤศจิกายน พ.ศ. 2539 ที่เมืองแทมปา
แต่แล้วนักมวยไร้พ่ายอย่าง รอย โจนส์ จูเนียร์ ก้ต้องมาพบกับความพ่ายแพ้เป็นครั้งแรก เมื่อป้องกันตำแหน่งแชมป์โลก WBC ไลท์เฮฟวีเวทนี้ครั้งแรก เมื่อแพ้ DQ ต่อ มอนเทล กริฟฟิน ไปอย่างไม่มีใครคาดคิดมาก่อน เพราะชกติดพันขณะที่กริฟฟินทรุดลงไปในยกที่ 9 กรรมการห้ามบนเวทีเห็นว่าเป็นการชกซ้ำ จึงตัดสินให้โจนส์แพ้ไป
รอย โจนส์ จูเนียร์ จึงเก็บความแค้นนี้ไว้ และมาระบายออกเมื่อได้โอกาสล้างตากับกริฟฟินอีกครั้ง คราวนี้โจนส์น็อกกริฟฟินแย่งเข็มขัดแชมป์คืนมาได้แค่ยกแรกเท่านั้นเอง เมื่อวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2540
รอย โจนส์ ป้องกันตำแหน่งในรุ่นไลท์เฮฟวีเวทนี้ไว้ได้ถึง 12 ครั้ง โดยทำการรวบแชมป์ของทั้ง 3 สถาบันใหญ่ และสถาบันเล็ก ๆ อย่าง IBO และ IBA และรวมถึงสถาบันระดับภูมิภาคอย่าง NBA ด้วย ซึ่งในช่วงนี้ รอย โจนส์ จูเนียร์ ได้รับการยกย่องให้เป็นนักมวยที่เก่งกาจที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ จนเรียกได้เลยว่า ไม่มีใครที่จะเป็นคู่ปรับกับโจนส์ได้ในรุ่นระหว่างนี้ บวกกับการออกหมัดที่ว่องไวมาก จนกล่าวได้ว่าเป็นสปีดหมัดที่ไวที่สุดในวงการมวยโลกเท่าที่เคยมีมาเลยทีเดียว
จากนั้น รอย โจนส์ จึงข้ามไปชกในรุ่นเฮฟวีเวท ซึ่งโจนส์ก็ประสบความสำเร็จเมื่อเป็นฝ่ายเอาชนะคะแนน จอห์น รุยซ์ แชมป์โลก WBA รุ่นเฮฟวี่เวท ชาวอเมริกัน ของ ไปได้เมื่อวันที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2546 ทั้งที่ก่อนการชกโจนส์ชั่งน้ำหนักได้เพียงแค่ 193 ปอนด์เท่านั้น (88 กิโลกรัม) ขณะที่รุยซ์หนักถึง 226 ปอนด์ (103 กิโลกรัม) และนับว่าโจนส์เป็นนักมวยที่ขึ้นมาจากรุ่นมิดเดิลเวทเป็นคนแรกในรอบ 106 ปี ที่สามารถเอาชนะในรุ่นเฮฟวีเวทได้ และเป็นคนแรกด้วยที่ขึ้นมาจากรุ่นมิดเดิลเวทที่ได้แชมป์โลกในรุ่นเฮฟวีเวท
จากนั้นโจนส์ก็ได้สละแชมป์โลกไปโดยไม่ได้ป้องกันตำแหน่งกับใคร เพื่อลดกลับไปชกในรุ่นไลท์เฮฟวีเวทที่เหมาะสมกับตนเองตามเดิม และโจนส์ก็สามารถเอาชนะคะแนน อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ นักมวยเพื่อนร่วมชาติเจ้าของเหรียญทองแดงในโอลิมปิกที่แอตแลนต้า ได้เป็นแชมป์โลก WBC และ IBO รุ่นไลท์เฮฟวีเวทอีกครั้ง แต่ผลการชกครั้งนี้หลายฝ่ายเห็นว่าทาร์เวอร์ทำได้ดีกว่าและน่าจะเป็นฝ่ายชนะคะแนนมากกว่า ทั้งคู่จึงได้ล้างตากันอีกครั้ง ในวันที่ 15 มีนาคม พ.ศ. 2547 คราวนี้ปรากฏว่าเป็นฝ่ายเทรเวอร์ที่เอาชนะทีเคโอโจนส์ได้ไปอย่างหายสงสัย
จากนั้นรอย โจนส์ ได้หวนกลับมาชิงแชมป์โลก IBF อีกครั้ง กับ เกล็น จอห์นสัน นักชกชาวจาเมกา ปรากฏว่าโจนส์เป็นฝ่ายแพ้น็อกจอห์นสันไปอีกในยกที่ 9 เมื่อเดือนกันยายน ปีเดียวกัน
หลังจากนั้นในวันที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2548 โจนส์ก็ได้มีโอกาสชกล้างตาอีกครั้งกับทาร์เวอร์ คราวนี้โจนส์ก็เป็นฝ่ายแพ้คะแนน 12 ยกไปอีก ท่ามกลางเสียงกล่าวขานว่า หมดยุคของเขาแล้ว
รอย โจนส์ จูเนียร์ ยังคงชกทำฟอร์มไปอีก 3 ครั้ง รวมทั้งการเอาชนะคะแนน เฟลิกซ์ ตรินิดัด อดีตยอดนักมวยชาวปวยร์โตรีกันที่หวนกลับชกอีกครั้งในรุ่นไลท์เฮฟวีเวทด้วย
และรอย โจนส์ ก็ได้พบกับ โจ คัลซากี ยอดนักชกชาวเวลส์ ผู้เป็นเจ้าของสถิติไม่แพ้ใครและเป็นแชมป์ไลท์เฮฟวี่เวทผู้ป้องกันตำแหน่งไว้ได้มากมายของ WBO เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2551 และเป็นฝ่ายแพ้คะแนนไปเมื่อครบ 12 ยก ท่ามกลางหน้าตาที่แตกยับเยิน
ในช่วงที่รุ่งเรือง รอย โจนส์ จูเนียร์ นอกจากถูกยกย่องว่าเป็นนักมวยที่เก่งที่สุดในโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์แล้ว เขายังใช้เวลาว่างจากการชกมวยเล่นบาสเก็ตบอลด้วย โดยเล่นในทีมของรัฐฟลอริดาบ้านเกิดในลีกระดับรองมาจาก NBA และยังเป็นศิลปินเพลงแร็พ ได้ออกอัลบั้มถึงหลายชุด และยังเป็นนักแสดงภาพยนตร์ฮอลลีวูดในบทตัวประกอบอีกด้วย ผลงานการแสดงของโจนส์ก็ได้แก่ The Devil's Avocate ในปี พ.ศ. 2539 และ The Matrix Reloaded ในปี พ.ศ. 2546 เป็นต้น
เกียรติประวัติ
[แก้]- แชมป์ WBC Continental Americas รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท
- ชิง, 5 ธันวาคม 2535 ชนะทีเคโอ เพอร์ซี แฮร์ริส ( สหรัฐ) ยก 4 ที่ ฮาร์ดร็อกไลฟ์ แอตแลนติกซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐ
- แชมป์โลก IBF รุ่นมิดเดิลเวท
- ชิง, 22 พฤษภาคม 2536 ชนะคะแนน เบอร์นาร์ด ฮอปกินส์ ( สหรัฐ) ที่ โรเบิร์ต เอฟ. เคนเนดี เมมโมเรียล สเตเดียม วอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 1, 27 พฤษภาคม 2537 ชนะทีเคโอ โธมัส เทท ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
- สละแชมป์
- แชมป์โลก IBF รุ่นซูเปอร์มิดเดิลเวท
- ชิง, 18 พฤศจิกายน 2537 ชนะคะแนน เจมส์ โทนีย์ ( สหรัฐ) ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 1, 18 มีนาคม 2538 ชนะทีเคโอ อันตอเน เบิร์ด ( สหรัฐ) ยก 1 ที่ เพนซาโคลาซีวิกเซนเตอร์ เพนซาโคลา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 2, 24 มิถุนายน 2538 ชนะทีเคโอ วินนี แพเซียนซา ( สหรัฐ) ยก 6 ที่ บอร์ดวอล์กฮอล แอตแลนติกซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 3, 30 กันยายน 2538 ชนะทีเคโอ โทนี ธอร์นตัน ( สหรัฐ) ยก 3 ที่ เพนซาโคลาซีวิกเซนเตอร์ เพนซาโคลา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 4, 15 มิถุนายน 2539 ชนะอาร์ทีดี อีริก ลูคัส ( แคนาดา) ยก 11 ที่ แจ็กสันวิลล์คอลิเซียม แจ็กสันวิลล์ รัฐฟลอริดา สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 5, 4 ตุลาคม 2539 ชนะทีเคโอ ไบรแอนท์ แบรนนอน ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ เมดิสันสแควร์การ์เดน นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐ
- สละแชมป์
- แชมป์เฉพาะกาล WBC รุ่นไลท์เฮฟวีเวท
- แชมป์โลก WBC รุ่นไลท์เฮฟวีเวท
- เสียแชมป์ (ในการป้องกันครั้งแรก), 21 มีนาคม 2540 แพ้ดีคิว มอนเทล กริฟฟิน ( สหรัฐ) ยก 9 ที่ ฮาร์ดร็อกไลฟ์ แอตแลนติกซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐ
- แชมป์โลก WBC รุ่นไลท์เฮฟวีเวท (สมัยที่ 2)
- ชิง, 7 สิงหาคม 2540 ชนะน็อก มอนเทล กริฟฟิน ( สหรัฐ) ยก 1 ที่ ฟอกซ์วูดรีสอร์ทคาสิโน เลนยาร์ด รัฐคอนเนกทิคัต สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 1 และชิงแชมป์โลก WBA ในรุ่นเดียวกัน, 18 กรกฎาคม 2541 ชนะคะแนน ลู เดล บัลเล ( สหรัฐ) ที่ เมดิสันสแควร์การ์เดน นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 2 , 14 พฤศจิกายน 2541 ชนะทีเคโอ โอติส แกรนท์ ( แคนาดา) ยก 10 ที่ ฟอกซ์วูดรีสอร์ทคาสิโน เลนยาร์ด รัฐคอนเนกทิคัต สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 3, 9 กรกฎาคม 2542 ชนะทีเคโอ ริชาร์ด เฟรเซอร์ ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ เพนซาโคลาซีวิกเซนเตอร์ เพนซาโคลา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 4 และชิงแชมป์โลก IBF ในรุ่นเดียวกัน, 5 มิถุนายน 2542 ชนะคะแนน เรจจี จอห์นสัน ( สหรัฐ) ที่ แฮราห์ กัลฟ์ คอสท์ ไบโลซี รัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 5, 15 มกราคม 2543 ชนะคะแนน เดวิด เทเลสโก ( สหรัฐ) ที่ เรดิโอซิตีมิวสิกฮอล นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 6, 13 พฤษภาคม 2543 ชนะทีเคโอ ริชาร์ด ฮอล ( จาเมกา) ยก 11 ที่ แบงก์เกอร์ไลฟ์ ฟิลด์ เฮาส์ อินเดียแนโพลิส รัฐอินดีแอนา สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 7 และชิงแชมป์โลก IBO ในรุ่นเดียวกัน, 9 กันยายน 2543 ชนะอาร์ทีดี อีริก ฮาร์ดดิง ( สหรัฐ) ยก 10 ที่ สมูททีคิงเซนเตอร์ นิวออร์ลีนส์ รัฐลุยเซียนา สหรัฐ (ภายหลัง WBA เลื่อนตำแหน่งให้เป็นซูเปอร์แชมป์ในรุ่นเดียวกัน)
- ป้องกันครั้งที่ 8, 24 กุมภาพันธ์ 2544 ชนะอาร์ทีดี เดอร์ริก ฮาร์มอน ( สหรัฐ) ยก 10 ที่ แอมาไลอารีนา แทมปา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 9 และชิงแชมป์โลก WBF กับ IBA ในรุ่นเดียวกัน, 28 กรกฎาคม 2544 ชนะคะแนน ฆูลิโอ เซซาร์ กอนซาเลซ ( เม็กซิโก) ที่ สเตเปิลส์เซ็นเตอร์ ลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 10 และชิงแชมป์โลกเดอะริงในรุ่นเดียวกัน, 2 กุมภาพันธ์ 2545 ชนะน็อก เกลน เคลลี ( ออสเตรเลีย) ยก 7 ที่ อเมริกันแอร์ไลน์สอารีนา ไมแอมี รัฐฟลอริดา สหรัฐ
- ป้องกันครั้งที่ 11, 7 กันยายน 2545 ชนะทีเคโอ คลินตัน วูดส์ ( สหราชอาณาจักร) ยก 6 ที่ โมดาเซนเตอร์ พอร์ตแลนด์ รัฐโอเรกอน สหรัฐ (ต่อมาสละแชมป์โลก WBC , IBF และ WBF)
- ป้องกันครั้งที่ 12 (เฉพาะแชมป์โลก WBA , IBO กับเดอะริง) และชิงแชมป์โลก WBC ในรุ่นเดียวกัน, 8 พฤศจิกายน 2546 ชนะคะแนน อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ ( สหรัฐ) ที่ แมนดะเลย์เบย์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
- เสียแชมป์, 15 พฤษภาคม 2547 แพ้ทีเคโอ อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ แมนดะเลย์เบย์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
- แชมป์โลก WBA รุ่นเฮฟวีเวท
- ชิง, 1 มีนาคม 2546 ชนะคะแนน จอห์น รุยซ์ ( สหรัฐ) ที่ โธมัสแอนด์แมกเซนเตอร์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
- สละแชมป์
- แชมป์ WBO - NABO รุ่นไลท์เฮฟวีเวท
- แชมป์โลก IBC รุ่นไลท์เฮฟวีเวท
- ชิง, 14 กรกฎาคม 2550 ชนะคะแนน แอนโทนี แฮนด์ชอว์ ( สหรัฐ) ที่ มิสซิสซิปปี คอสท์ คอลิเซียม ไบโลซี รัฐมิสซิสซิปปี สหรัฐ
- สละแชมป์
- แชมป์ WBO - NBCO รุ่นไลท์เฮฟวีเวท (สมัยที่ 2)
- แชมป์ UBO Intercontinental (แชมป์เงา UBO) รุ่นครุยเซอร์เวท
- ชิง, 10 ธันวาคม 2554 ชนะคะแนน แมก อเล็กซานเดอร์ ( สหรัฐ) ที่ แอตแลนตาซีวิกเซนเตอร์ แอตแลนตา รัฐจอร์เจีย สหรัฐ
- สละแชมป์
- แชมป์โลก WBU (สถาบันของเยอรมนี) รุ่นครุยเซอร์เวท
- ชิง, 21 ธันวาคม 2556 ชนะคะแนน ซิเน เอ็ดดิเน เบนมักลูฟ์ ( แอลจีเรีย) ที่ คริลัทสโกยสปอร์ตพาเลซ มอสโก เขตสหพันธ์กลาง ประเทศรัสเซีย
- ป้องกันครั้งที่ 1, 26 กรกฎาคม2557 ชนะอาร์ทีดี คอร์ทนีย์ ฟราย ( สหราชอาณาจักร) ยก 5 ที่ คิปซาลาอินเทอร์เนชันแนลเอ็กซิบิชันเซนเตอร์ รีกา ประเทศลัตเวีย
- ป้องกันครั้งที่ 2, 26 กันยายน 2557 ชนะน็อก ฮานิ อาติโย ( อียิปต์) ยก 1 ที่ ครัสโนดาร์บาสเกตฮอล ครัสโนดาร์ ดินแดนครัสโนดาร์ ประเทศรัสเซีย
- ป้องกันครั้งที่ 3, 28 มีนาคม 2558 ชนะทีเคโอ พอล วาสเคซ ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ เพนซาโคลาเบย์เซนเตอร์ เพนซาโคลา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
- สละแชมป์
- แชมป์โลก WBF รุ่นครุยเซอร์เวท
- ชิง, 17 กุมภาพันธ์ 2560 ชนะทีเคโอ บ็อบบี กันน์ ( แคนาดา) ยก 8 ที่ เชสเซนเตอร์ วิลมิงตัน รัฐเดลาแวร์ สหรัฐ
- สละแชมป์
- แชมป์โลก WBU (สถาบันของเยอรมนี) รุ่นครุยเซอร์เวท (สมัยที่ 2)
- ชิง, 8 กุมภาพันธ์ 2561 ชนะคะแนน สกอทท์ ซิมมอน ( สหรัฐ) ที่ เพนซาโคลาเบย์เซนเตอร์ เพนซาโคลา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
- สละแชมป์
- เคยชิงแชมป์ต่อไปนี้แต่ไม่สำเร็จ
- ชิงแชมป์โลก WBF รุ่นไลท์เฮฟวีเวท, 15 พฤษภาคม 2547 แพ้ทีเคโอ อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ แมนดะเลย์เบย์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
- ชิงแชมป์โลก IBF รุ่นไลท์เฮฟวีเวท, 25 กันยายน 2547 แพ้น็อก เกลน จอห์นสัน ( จาเมกา) ยก 9 ที่ เฟดเอ็กซ์ฟอรัม เมมฟิส รัฐเทนเนสซี สหรัฐ
- ชิงแชมป์โลก IBO และเดอะริงรุ่นไลท์เฮฟวีเวท, 1 ตุลาคม 2549 แพ้คะแนน อันโตนิโอ ทาร์เวอร์ ( สหรัฐ) ที่ แอมาไลอารีนา แทมปา รัฐฟลอริดา สหรัฐ
- ชิงแชมป์โลกเดอะริงรุ่นไลท์เฮฟวีเวท, 8 พฤศจิกายน 2551 แพ้คะแนน โจ คัลซากี ( สหราชอาณาจักร) ที่ เมดิสันสแควร์การ์เดน นครนิวยอร์ก รัฐนิวยอร์ก สหรัฐ
- ชิงแชมป์โลก IBO รุ่นครุยเซอร์เวท, 2 ธันวาคม 2552 แพ้ทีเคโอ แดนนี กรีน ( ออสเตรเลีย) ยก 1 ที่ ซิดนีย์ซูเปอร์โดม ซิดนีย์ รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย
อ้างอิง
[แก้]- ประวัติของ รอย โจนส์ จูเนียร์ จากหนังสือมวยโลกฉบับพิเศษ โกลเด้น บอย ออสการ์ เดอ ลา โฮยา (พ.ศ. 2540) โดย บริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคต จำกัด
- สถิติการชก
แหล่งข้อมูลอื่น
[แก้]- บุคคลที่เกิดในปี พ.ศ. 2512
- บุคคลที่ยังมีชีวิตอยู่
- นักมวยสากลชาวอเมริกัน
- นักมวยสากลสมัครเล่นชาวอเมริกัน
- นักบาสเกตบอลชาวอเมริกัน
- แร็ปเปอร์อเมริกัน
- แชมป์โลก WBC
- แชมป์โลก WBA
- แชมป์โลก IBF
- ชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกา
- นักกีฬาโอลิมปิกทีมชาติสหรัฐอเมริกา
- ผู้เข้าแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน 1988
- นักกีฬาเหรียญเงินโอลิมปิก
- แชมป์โลก WBF
- แชมป์โลก WBU
- บุคคลจากรัฐฟลอริดา