(Translated by https://www.hiragana.jp/)
เสียงขุ่นนาสิก - วิกิพีเดีย ข้ามไปเนื้อหา

เสียงขุ่นนาสิก

จากวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี

เสียงขุ่นนาสิก (ญี่ปุ่น: 鼻濁音びだくおんโรมาจิbidakuonทับศัพท์: บิดากูอง) หรือเสียงนาสิกวรรค が (ga) (ญี่ปุ่น: ぎょう鼻音びおんโรมาจิgagyō-bionทับศัพท์: กาเงียว บิอง) หรือเสียงขุ่นนาสิกวรรค が (ga) (ญี่ปุ่น: ぎょう鼻濁音びだくおんโรมาจิgagyō-bidakuonทับศัพท์: กาเงียว บิดากูอง) หมายถึง เสียงของตัวอักษร 「」 ที่พยัญชนะออกเสียงขึ้นจมูกเป็นเสียงนาสิก [ŋ] และถือเป็นหน่วยเสียงย่อยของหน่วยเสียง /g/ โดยทั่วไปจะปรากฏในตำแหน่งกลางคำ (ตำแหน่งอื่น ๆ ที่ไม่ใช่ต้นคำ) ตรงกับพยัญชนะ ง ของภาษาไทย[1][หมายเหตุ 1]

เสียงนี้เป็นลักษณะเด่นอย่างหนึ่งของภาษาถิ่นโตเกียวซึ่งกลายเป็นภาษากลางของประเทศญี่ปุ่นในปัจจุบัน ผู้ประกาศข่าว นักแสดง นักพากย์ ฯลฯ จึงฝึกฝนในฐานะการออกเสียงมาตรฐาน[3] ปัจจุบันประชากรที่ออกเสียงเป็นเสียงขุ่นนาสิกลดจำนวนลงอย่างต่อเนื่องยกเว้นภูมิภาคโทโฮกุ[4]

ประวัติ[แก้]

เสียงขุ่นนาสิก [ŋ] ซึ่งปรากฏกลางคำนี้พบได้มากในภาษาญี่ปุ่นตะวันออก (ญี่ปุ่น: 東日本ひがしにっぽん方言ほうげんโรมาจิHigashi Nihon Hōgenทับศัพท์: ฮิงาชิ นิฮง โฮเง็ง) ตั้งแต่ภาษาถิ่นคิงกิ (คันไซ) เรื่อยไปตามทิศตะวันออกจนถึงเกาะฮกไกโด แต่แทบไม่พบในภาษาถิ่นชูโงกุและภาษาถิ่นคีวชู[5] และในพื้นที่ที่มีเสียงขุ่นนาสิกเองก็ยังสามารถแบ่งเป็นภาษาถิ่นที่ออกเสียง /g/ กลางคำเป็นเสียงขุ่นนาสิก [ŋ] หรือเสียงขุ่นธรรมดา [g] สลับกันไปมาอย่างอิสระ (เช่น ภาษาถิ่นเกียวโต) ภาษาถิ่นที่ออกเสียง /g/ เป็นเสียงขุ่นนาสิก [ŋ] ในบางสภาพแวดล้อมตามเงื่อนไข (เช่น ภาษาถิ่นโตเกียว) และภาษาถิ่นที่เสียง /g/ กลางคำออกเสียงเป็นเสียงขุ่นนาสิก [ŋ] เสมอ (ภาษาถิ่นโทโฮกุ)[หมายเหตุ 2]

ที่มาของเสียงขุ่นนาสิก [ŋ] ในภาษาถิ่นโตเกียวไม่ชัดเจนเนื่องจากหลักฐานเกี่ยวกับภาษาญี่ปุ่นยุคก่อนสมัยใหม่มักเป็นภาษาถิ่นเกียวโต (เมืองหลวงเก่าของญี่ปุ่น) อย่างไรก็ตามหลักฐานช่วงต้นคริสต์ศตวรรษที่ 17 แสดงให้เห็นว่าภาษาถิ่นเกียวโตในช่วงเวลานั้นหน่วยเสียง /g/ เคยออกเสียงนาสิกนำ (prenasalization) เป็น [ᵑɡ] และปัจจุบันก็ยังคงพบการออกเสียงเช่นนี้ในภาษาถิ่นบางภาษา เราจึงอนุมานได้ว่าในอดีตการออกเสียงนาสิกนำเคยเป็นลักษณะร่วมของภาษาญี่ปุ่นหลาย ๆ ถิ่น Inoue (1971 อ้างใน Takayama, 2015) ได้ศึกษาการปรากฏเป็นรูป (phonetic realization) ของเสียง /g/ ของภาษาถิ่นทั้งประเทศและสรุปว่า เดิมทีหน่วยเสียง /g/ เคยออกเสียงเป็น [ᵑɡ] จากนั้นจึงมีวิวัฒนาการแยกเป็น 2 สาย สายหนึ่งวิวัฒนาการเป็นเสียง [ŋ] และอีกสายหนึ่งวิวัฒนาการเป็นเสียง [ɡ] ภาษาถิ่นโตเกียวจัดว่าเป็นแบบแรก[6]

ปัจจุบันประชากรที่ใช้เสียงขุ่นนาสิก [ŋ] ได้ลดจำนวนลงเรื่อย ๆ แม้แต่ในกลุ่มเจ้าของภาษาถิ่นโตเกียวรุ่นใหม่ ๆ เองก็เปลี่ยนจากออกเสียง [ŋ] ในบางสภาพแวดล้อมตามเงื่อนไขมาเป็นออกเสียง [ŋ]↔[g] สลับกันไปมาอย่างอิสระ และบางคนก็ไม่ใช้เสียงขุ่นนาสิกเลย[7][หมายเหตุ 3] แนวโน้มนี้พบเห็นได้กระทั่งในกลุ่มคนที่น่าจะได้รับการอบรมและฝึกฝนเสียงขุ่นนาสิกมาอย่างเข้มงวด เช่น ดารา นักแสดง ผู้ประกาศข่าวที่อายุยังน้อยของสถานีโทรทัศน์เอกชน โดยมีการระบุว่าผู้ประกาศข่าวรุ่นใหม่ของสถานีโทรทัศน์เอกชนประมาณ 2 ใน 3 และผู้ประกาศข่าวรุ่นใหม่ของสถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเค (NHK) ประมาณ 1 ใน 3 ไม่ได้ใช้เสียงขุ่นนาสิกตามภาษาถิ่นโตเกียว[8] อนึ่ง ประชากรที่ไม่ใช้เสียงขุ่นนาสิกมักจะออกเสียงกลางคำเป็นเสียงขุ่นธรรมดา ส่วนประชากรที่ใช้สลับกันไปมามักจะใช้เสียงขุ่นนาสิกเฉพาะในบริบทที่ผู้พูดไม่ระวังตัวเท่านั้น[7][หมายเหตุ 4]

เสียงขุ่นนาสิกเคยถูกบรรจุในหลักสูตรการเรียนการสอนระดับประถมศึกษาจนกระทั่งญี่ปุ่นแพ้สงครามและถูกฝ่ายสัมพันธมิตรนำโดยสหรัฐอเมริกาเข้ายึดครอง[9] ปัจจุบันพบเห็นได้ในสื่อการสอนสำหรับเด็กเล็ก เช่น เพลง『華麗かれい鼻濁音びだくおん』(Karei ni bidakuon, คาเร นิ บิดากูอง) ในรายการโทรทัศน์ช่อง NHK Educational TV ซึ่งมีเนื้อหาเชิญชวนให้เด็ก ๆ และผู้ปกครองออกเสียงขุ่นนาสิกเพื่อให้คำพูดฟังดูนุ่มนวลขึ้น[10]

กฎการเปลี่ยนเป็นเสียงขุ่นนาสิก[แก้]

คำอธิบายในที่นี้เป็นแนวโน้มการออกเสียงเป็นเสียงขุ่นนาสิกในภาษาถิ่นโตเกียว[11][12][13] ข้อมูลในส่วน "พจนานุกรมการออกเสียง" มีการใช้สัญลักษณ์พิเศษตามที่ปรากฏในพจนานุกรมดังนี้

  1. 「ガ・ギ・グ・ゲ・ゴ」 ที่ออกเป็นเสียงขุ่นนาสิกจะแสดงด้วยอักษรพิเศษ 「カ゚・キ゚・ク゚・ケ゚・コ゚」 ตามลำดับ
  2. เครื่องหมาย 「」 ใช้เพื่อแสดงตำแหน่งเสียงตก (ญี่ปุ่น: がりโรมาจิsagari-meทับศัพท์: ซางาริเมะ) ของคำหรือหน่วยคำนั้น ส่วนเครื่องหมาย 「」 ใช้เพื่อแสดงว่าคำหรือหน่วยคำนั้นไม่มีตำแหน่งเสียงตก
  3. ตัวอักษรไม่เข้มใช้เพื่อแสดงว่าตัวอักษรดังกล่าวออกเสียงโดยมีการลดความก้อง (devoicing) ของเสียงสระด้วย

หลักการทั่วไป[แก้]

  • เมื่อเสียง /g/ ปรากฏในตำแหน่งต้นคำ จะออกเป็นเสียงขุ่นธรรมดา: [g]
ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
学校がっこうがっこう gakkō /gaQkoː / [gak̚koː] ガッコー โรงเรียน
外国がいこくがいこく gaikoku /gaikoku/ [gai̯kokɯ] ガイコク ต่างประเทศ
元気げんきげんき genki /geNki/ [geŋːkʲi] ンキ แข็งแรง, กระปรี้กระเปร่า
  • เมื่อ /g/ ปรากฎในตำแหน่งที่ไม่ใช่ต้นคำ (รวมถึงหน่วยคำเติมท้าย เช่น คำช่วย 「が」「ぐらい」「ごろ」) จะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก: [ŋ]
ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
かぎかぎ kagi /kagi/ [kaŋʲi] カキ゚ กุญแจ
つげげる tsugeru /tugeru/ [t͡sɯŋeɾɯ] ツケ゚ル แจ้ง, บอก
事業じぎょうじぎょう jigyō /zigyoː/ [d͡ʑiŋjoː] キ゚ョー กิจการ
タイかたり tai-go /tai-go/ [tai̯ŋo] タイコ゚ ภาษาไทย
やまやま yama-ga /yama-ga/ [jamaŋa] ヤマカ゚ ภูเขา+(คำช่วย)
さんあいださんじかんぐらい san-jikan-gurai /saN-jikaN-gurai/ [sanːd͡ʑikaŋːŋɯɾai̯] サンジカンク゚ライ ประมาณ 3 ชั่วโมง
さんさんじごろ san-ji-goro /saN-ji-goro/ [sanːd͡ʑiŋoɾo] サンジコ゚ ราว ๆ บ่ายสาม/ตีสาม
  • คำที่ปกติอยู่กลางคำหรือประโยค แต่ถูกนำมาใช้ขึ้นต้นคำหรือประโยค จะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิกเช่นกัน
ภาษาญี่ปุ่น 辞書じしょじしょいてみた。ていなかった。
ระบบเฮ็ปเบิร์น Jisho de hiite mita. Ga, dete inakatta.
ระดับหน่วยเสียง /jisyo de hiːte mita. ga, dete inakatta/
เสียงโดยละเอียด [d͡ʑiɕo de çiːte mʲita. ŋa, dete inakat̚ta]
ความหมาย "ลองค้นในพจนานุกรมดูแล้ว แต่ไม่มี"
ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
雨傘あまがさあまがさ amagasa /ama-/+/kasa/ → /amagasa/ [amaŋasa] アマカ゚サ

アマカ゚

ร่มกันฝน
人柄ひとがらひとがら hitogara /hito/+/kara/ → /hitogara/ [çi̥toŋaɾa] トカ゚ラ นิสัยใจคอ
ふゆ景色けしきふゆげしき fuyugeshiki /huyu/+/kesiki/ → /huyugesiki/ [ɸɯjɯŋeɕi̥kʲi] フユケ゚ ทิวทัศน์ในฤดูหนาว
ガス会社かいしゃがいしゃ gasugaisha /gasu/+/kaisya/ → /gasugaisya/ [gasuŋai̯ɕa] ガスカ゚イシャ บริษัทแก๊ส

ข้อยกเว้น[แก้]

  • คำยืมจากภาษาต่างประเทศ (ญี่ปุ่น: 外来がいらいโรมาจิgairaigoทับศัพท์: ไกไรโงะ) จะยึดตามภาษาต้นทาง นั่นคือ หากภาษาต้นทางเป็น [g] ก็จะออกเป็นเสียงขุ่นธรรมดา ([g]) หากภาษาต้นทางเป็น [ŋ] ก็จะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก ([ŋ])
ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
ハンバーガー hanbāgā /haNbaːgaː/ [hamːbaːgaː] ハンバーガー แฮมเบอร์เกอร์ (อังกฤษ: hamburger)
エネルギー enerugii /enerugiː/ [eneɾɯiː] エネルギー

エネルギー

พลังงาน (เยอรมัน: Energie)
モンゴル mongoru /moNgoru/ [moŋːgoɾɯ] ンゴル มองโกเลีย (อังกฤษ: Mongol)
キング kingu /kiNgu/ [kʲiŋːŋɯ] ンク゚ พระราชา (อังกฤษ: king)
シンガー singā /siNgaː/ [ɕiŋːŋaː] ンカ゚ー นักร้อง (อังกฤษ: singer)
メレンゲ merenge /mereNge/ [meɾeŋːŋe] メレンケ゚

メレンケ゚

ชื่อขนมชนิดหนึ่ง (ฝรั่งเศส: meringue)
  • คำยืมจากภาษาต่างประเทศบางคำ แม้ภาษาต้นทางจะเป็นเสียง [g] แต่ถ้าใช้กันมานานก็อาจจะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิกได้
ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
イギリス igirisu /igirisu/ [iŋʲiɾisɯ] イキ゚リス สหราชอาณาจักร (โปรตุเกส: Inglez)
ペンギン pengin /peNgiN/ [peŋːŋʲiɴ] ペンキ゚ン เพนกวิน (อังกฤษ: penguin)
ジャガいも jagaimo /zyagaimo/ [d͡ʑaŋaimo] ジャカ゚イモ มันฝรั่ง (「ジャガ」 มาจาก 「ジャガタラ」 ดัตช์[15]หรือโปรตุเกส[16][17]: Jacatra "จาการ์ตา")
ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
ひるひるごはん hiru-gohan /hiru/+/gohaN/ [çiɾɯgohaɴː] ヒルゴハン อาหารเที่ยง
せいなまごみ nama-gomi /nama-/+/gomi/ [namagomʲi] ナマゴミ

ナマゴミ

ขยะเปียก
高等こうとう学校がっこうこうとうがっこう kōtō-gakkō /koːtoː/+/gaQkoː/ [koːtoːgak̚koː] コートーガッコー โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย
  • คำประสมที่คำหลังขึ้นต้นด้วย /g/ แต่เส้นแบ่ง (ญี่ปุ่น: โรมาจิkiremeทับศัพท์: คิเรเมะ) ระหว่างคำทั้งสองได้เลือนรางไม่ชัดเจนไปแล้ว จะออกเสียงเป็นขุ่นนาสิก
ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
小学校しょうがっこうしょうがっこう shōgakkō /syoːgaQkoː/ [ɕoːŋak̚koː] ショーカ゚ッコー โรงเรียนประถมศึกษา
中学校ちゅうがっこうちゅうがっこう chūgakkō /tyuːgaQkoː/ [t͡ɕɯːŋak̚koː] チューカ゚ッコー โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น
管楽器かんがっきかんがっき kangakki /kaNgaQki/ [kaŋːŋak̚kʲi] カンカ゚ッキ เครื่องดนตรีเป่า
  • กรณีที่มีหน่วยคำอุปสรรค 「お-」「ご-」(หน่วยคำแสดงความสุภาพ) อยู่หน้าคำที่ขึ้นต้นด้วย /g/ โดยปกติจะไม่ออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก
ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
元気げんきげんき o-genki /o-/+/geNki/ [ogeŋkʲi] オゲンキ แข็งแรง, กระปรี้กระเปร่า
義理ぎりぎり o-giri /o-/+/giri/ [oiɾʲi] オギリ หน้าที่
議論ぎろんぎろん go-giron /go-/+/giroN/ [goiɾoɴː] ゴギロン ข้อถกเถียง
学友がくゆうがくゆう go-gakuyū /go-/+/gakuyuː/ [gogakɯyɯː] ゴガクユー เพื่อนที่โรงเรียน
  • กรณีที่มีหน่วยคำอุปสรรค 「-ひ-」「-ふ-」 อยู่หน้าคำที่ขึ้นต้นด้วย /g/ บางคำออกเป็นเสียงขุ่นธรรมดาหรือเสียงขุ่นนาสิกก็ได้
ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
非合法ひごうほうひごうほう higōhō /hi-/+/goːhoː/ [çiŋoːhoː ], [çigoːhoː ] ヒコ゚ーホー

ヒゴーホー

ผิดกฎหมาย
非合理ひごうりひごうり higōri /hi-/+/goːri/ [çiŋoːɾʲi], [çigoːɾʲi] ヒコ゚ーリ

ヒゴーリ

ไม่สมเหตุสมผล
合格ごうかくふごうかく fugōkaku /hu-/+/goːkaku/ [ɸɯŋoːkakɯ], [ɸɯgoːkakɯ] フコ゚ーカク

フゴーカク

สอบตก
合理ごうりふごうり fugōri /hu-/+/goːri/ [ɸɯŋoːɾʲi], [ɸɯgoːɾʲi] フコ゚ーリ

フゴーリ

ไม่สมเหตุสมผล
  • เลข "5" ไม่ออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก ยกเว้นบางคำที่ความหมายของเลข "5" ได้เลือนรางไปแล้วจะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก
ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
じゅうにんじゅうごにん(15にん jū-go-nin /zyuːgoniN/ [d͡ʑɯːgoɲiɴː ] ジュー・ゴニ

ジューゴニン

15 คน
ひゃくじゅうにんひゃくごじゅうにん(150にん hyaku-go-jū-nin /hyakugojuːniN/ [çakɯgoʑɯːɲiɴː] ヒャクゴジューニン 150 คน
ななさんしちごさん shichigosan /sitigosaN/ [ɕi̥t͡ɕiŋosaɴː] チコ゚サン

チコ゚サン

เทศกาลฉลองสำหรับเด็กอายุ 3 ขวบ 5 ขวบ และ 7 ขวบ
十五夜じゅうごやじゅうごや jūgoya /zyuːgoya/ [d͡ʑɯːŋoja] ジューコ゚ヤ คืนเดือนเพ็ญ
  • คำสัทพจน์ (คำเลียนเสียงและแสดงสภาพ) ที่ดูเป็นการซ้ำคำสองครั้งและมีเสียง /g/ ปรากฏต้นคำไม่ออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก
ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
げらげら geragera

(gera+gera)

/geragera/ [geɾageɾa] ラゲラ คำแสดงเสียงหัวเราะเสียงดังโดยไม่สงวนท่าที
がんがん gangan

(gan+gan)

/gaNgaN/ [gaŋːgaɴː] ンガン คำแสดงเสียงดังที่เกิดจากตีโลหะ ฯลฯ
ぎとぎと gitogito

(gito+gito)

/gitogito/ [gʲitoito] トギト สภาพไขมันเยิ้ม

ส่วนคำสัทพจน์ที่ /g/ ไม่ได้ปรากฏต้นคำจะออกเป็นเสียงขุ่นนาสิก เช่น

ภาษาญี่ปุ่น ระบบเฮ็ปเบิร์น ระดับหน่วยเสียง เสียงโดยละเอียด พจนานุกรมการออกเสียง ความหมาย
もぐもぐ mogumogu

(mogu+mogu)

/mogumogu/ [moŋɯmoŋɯ] ク゚モク゚ (เคี้ยว) ตุ้ย ๆ

หมายเหตุ[แก้]

  1. ส่วนเสียงขุ่นธรรมดา [g] ไม่ตรงกับเสียงใด ๆ ในภาษาไทย ผู้เรียนภาษาญี่ปุ่นชาวไทยมักแทนเสียงนี้ด้วย [g̊] หรือ [k] ซึ่งเป็นเสียงพยัญชนะ ก [2]
  2. ในภาษาถิ่นโทโฮกุ /g/ กลางคำออกเสียงเป็น [ŋ] และไม่สามารถออกเสียงเป็น [g] ได้ เพราะภาษาถิ่นโทโฮกุ /k/ กลางคำออกเสียงเป็น [g] เช่น /kaki/ "ลูกพลับ" ออกเสียงเป็น [kagi] และ /kagi/ "กุญแจ" ออกเสียงเป็น [kaŋi] กล่าวได้ว่าภาษาถิ่นโทโฮกุ [g] และ [ŋ] มีหน้าที่สำคัญในการแยกความหมายของคำ
  3. /g/ ที่ออกเสียงเป็น [ŋ] ในบางสภาพแวดล้อมถือเป็น "หน่วยเสียงย่อยตามเงื่อนไข" (conditional allophone, 条件じょうけんおと) ส่วน /g/ ที่ออกเสียงเป็น [ŋ] หรือ [g] สลับไปมาได้อย่างอิสระถือเป็น "หน่วยเสียงย่อยแปรอิสระ" (free allophone, 自由じゆうおと)
  4. ประชากรกลุ่มนี้จะไม่ใช้เสียงขุ่นนาสิกเมื่อต้องออกเสียงอย่างระมัดระวัง เช่น การอ่านรายการคำศัพท์
  5. เร็นดากุ คือ ปรากฏการณ์ที่คำศัพท์สองคำเชื่อมต่อกันแล้วเสียงพยัญชนะตัวแรกของคำหลังเปลี่ยนจากเสียงไม่ก้องเป็นเสียงก้อง เช่น /ama-/+/kumo/ → /amagumo/ (เมฆฝน), /hana/+/hi/ → /hanabi/ (ดอกไม้ไฟ, พลุ)[14]

อ้างอิง[แก้]

  1. ยุพกา ฟูกุชิม่า (2014). การออกเสียงภาษาญี่ปุ่น จากทฤษฎีสู่ปฏิบัติ(日本語にほんご発音はつおん理解りかいから実践じっせんへー). กรุงเทพฯ: สำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์. ISBN 978-616-556-144-0. OCLC 900808629.
  2. Kashima, Tanomu; 鹿島かしまひさし (2002). Nihongo kyōiku o mezasu hito no tame no kiso kara manabu onseigaku (Shohan ed.). Tōkyō: Surīē Nettowāku. ISBN 4-88319-231-8. OCLC 51080098.
  3. Yamaoka, Kanako; 山岡やまおかはな菜子さいこ (2020). Meikai Nihongogaku jiten (ภาษาญี่ปุ่น). Takurō Moriyama, Katsumi Shibuya, 卓郎たくろう 森山もりやま, 勝己かつみ 渋谷しぶや. Tōkyō. ISBN 978-4-385-13580-9. OCLC 1160201927.
  4. 国立こくりつ国語こくご研究所けんきゅうじょ [NINJAL], 国語こくごけん教授きょうじゅかたる「にごおとなぞ」 (1) 鼻濁音びだくおん (ภาษาญี่ปุ่น), สืบค้นเมื่อ 2021-06-22
  5. 国立こくりつ国語こくご研究所けんきゅうじょ 日本にっぽん言語げんご地図ちずだい1しゅう だい1 地図ちず画像がぞう (ภาษาญี่ปุ่น) สืบค้นเมื่อ 23 ธันวาคม 2564
  6. Takayama, Tomoaki (2015). "Historical Phonology". Handbook of Japanese phonetics and phonology. Haruo Kubozono. Boston. ISBN 978-1-61451-198-4. OCLC 905734789.
  7. 7.0 7.1 Vance, Timothy J. (2008). The sounds of Japanese. Cambridge, UK: Cambridge University Press. ISBN 978-0-521-61754-3. OCLC 227031753.
  8. 2012ねん4がつ19にちラジオ深夜しんや便びん「くらしのなかのことば」(当該とうがい部分ぶぶん放送ほうそう20日はつか0だい):国立こくりつ国語こくご研究所けんきゅうじょ名誉めいよ所員しょいん 佐藤さとう亮一りょういちによる。
  9. "文化庁ぶんかちょう | 国語こくご施策しさく日本語にほんご教育きょういく | 国語こくご施策しさく情報じょうほう | だい5国語こくご審議しんぎかい | 語形ごけいの「ゆれ」の問題もんだい". www.bunka.go.jp.
  10. "にほんごであそぼ つきうた - キッズワールド NHK Eテレ こどもポータル". www.nhk.or.jp. คลังข้อมูลเก่าเก็บจากแหล่งเดิมเมื่อ 2020-12-16. สืบค้นเมื่อ 2021-12-24.
  11. Akinaga, Kazue; 秋永あきなが一枝いちえだ (2014). Shin Meikai Nihongo akusento jiten (ภาษาญี่ปุ่น). Haruhiko Kindaichi, 金田一きんだいち春彦はるひこ (Dai 2-han ed.). Tōkyō Chiyoda-ku. ISBN 978-4-385-13672-1. OCLC 874517214.
  12. Enueichikē nihongo hatsuon akusento shinjiten (ภาษาญี่ปุ่น). NHK Hōsō Bunka Kenkyūjo, 日本にっぽん放送ほうそう協会きょうかい放送ほうそう文化ぶんか研究所けんきゅうじょ. Tōkyō: Enueichikēshuppan. 2016. ISBN 978-4-14-011345-5. OCLC 950889281.{{cite book}}: CS1 maint: others (ลิงก์)
  13. "鼻濁音びだくおん位置いちづけと現況げんきょう|NHK放送ほうそう文化ぶんか研究所けんきゅうじょ". NHK放送ほうそう文化ぶんか研究所けんきゅうじょ (ภาษาญี่ปุ่น). สืบค้นเมื่อ 2021-06-24.{{cite web}}: CS1 maint: url-status (ลิงก์)
  14. Suzuki, Yutaka; 鈴木すずきゆたか (2020). Meikai Nihongogaku jiten (ภาษาญี่ปุ่น). Takurō Moriyama, Katsumi Shibuya, 卓郎たくろう 森山もりやま, 勝己かつみ 渋谷しぶや. Tōkyō. ISBN 978-4-385-13580-9. OCLC 1160201927.
  15. Sanseidō Kokugo jiten (ภาษาญี่ปุ่น). Hidetoshi Kenbō, ぼう豪紀ひでとし, Sanseidō, 三省堂さんせいどう (Daishichihan ed.). Tōkyō. 2014. ISBN 978-4-385-13926-5. OCLC 881844599.{{cite book}}: CS1 maint: others (ลิงก์)
  16. Nihon kokugo daijiten (ภาษาญี่ปุ่น). Shōgakkan. Kokugo Jiten Henshūbu, 小学しょうがくかん. 国語こくご辞典じてん編集へんしゅう. (Seisenban, shohan ed.). Tōkyō: Shōgakkan. 2006. ISBN 4-09-521021-4. OCLC 70216445.{{cite book}}: CS1 maint: others (ลิงก์)
  17. Daijirin (ภาษาญี่ปุ่น). Akira Matsumura, 松村まつむらあきら, Sanseidō. Henshūjo, 三省堂さんせいどう. 編修へんしゅうしょ. (Daishihan ed.). Tōkyō. 2019. ISBN 978-4-385-13906-7. OCLC 1117711467.{{cite book}}: CS1 maint: others (ลิงก์)