กลุ่มดาวคนคู่
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
![]() คลิกเพื่อดูรูปใหญ่ | |
ชื่อย่อ: | Gem |
---|---|
ชื่อคุณศัพท์: | Geminorum |
สัญลักษณ์: | แฝด |
ไรต์แอสเซนชัน: | 7 ชั่วโมง |
เดคลิเนชัน: | 20° |
เนื้อที่: | 514 ตารางองศา (อันดับที่ 30) |
จำนวนดาวฤกษ์: (ความส่องสว่างปรากฏน้อยกว่า 3) | 4 |
ดาวฤกษ์ที่สว่างที่สุด: | ดาวพอลลุกซ์ ( (ความส่องสว่างปรากฏ = 1.1) |
ฝนดาวตก: | ฝนดาวตกคนคู่ ฝนดาวตกโรคนคู่ |
กลุ่มดาวที่ติดกัน: | กลุ่มดาวแมวป่า กลุ่มดาวสารถี กลุ่มดาววัว กลุ่มดาวนายพราน กลุ่มดาวยูนิคอร์น กลุ่มดาวหมาเล็ก กลุ่มดาวปู |
มองเห็นได้ในระหว่างละติจูด +90° ถึง −60° มองเห็นได้ดีที่สุดในเวลา 21.00 น. ของเดือนกุมภาพันธ์ | |
กลุ่มดาวคนคู่ หรือ กลุ่มดาวมิถุน/เมถุน (♊) เป็นกลุ่มดาวหนึ่งในกลุ่มดาวจักรราศี อยู่ระหว่างกลุ่มดาววัวทางทิศตะวันตก กับกลุ่มดาวปูทางทิศตะวันออก ทางทิศเหนือ คือ กลุ่มดาวสารถีและกลุ่มดาวแมวป่าที่แทบจะมองไม่เห็น ทางทิศใต้ คือ กลุ่มดาวยูนิคอร์นและกลุ่มดาวหมาเล็ก โครงการเจมินีขององค์การนาซา ตั้งชื่อตามกลุ่มดาวนี้
จุดเด่นของกลุ่มดาวคนคู่ คือ ดาวฤกษ์สองดวงอยู่ใกล้กัน ดาวที่อยู่สูงกว่าเรียกว่าดาวคัสตอร์ (
ประวัติ
[แก้]กลุ่มดาวคนคู่เป็นกลุ่มดาวจักรราศีลำดับที่สาม (นับจากราศีเมษ) เห็นได้ชัดตั้งแต่เดือนธันวาคม ถึง พฤษภาคม เป็นดาวสำคัญของนักเดินเรือ เพราะเมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนสู่ราศีมิถุน นับเป็นเครื่องหมายของการสิ้นสุดพายุฤดูหนาว เรือออกทะเลได้ บนเรือมักจะมีรูปปั้นและหิ้งบูชาเทพสององค์นี้ เพื่ออธิษฐานให้เดินทางได้ราบรื่น ปราศจากอุปสรรคทั้งปวง ในท่าเรือต่าง ๆ สมัยโบราณ ก็ยังมีรูปปั้นของเทพทั้งสองนี้ ที่สองฝั่งปากทางออกสู่ทะเล
เมื่อ 6,000-4,000 ปีก่อนคริสตกาล ดวงอาทิตย์เคลื่อนสู่ราศีมิถุนในช่วงวสันตวิษุวัต (21 มีนาคม) ราศีนี้จึงมีความสำคัญทั้งทางปฏิทินและทางลัทธิบูชา และในยุคดังกล่าวยังเป็นจุดเริ่มต้นการเกษตร ที่ต้องการปฏิทินที่แม่นยำสูง ในคัมภีร์โบราณอันเก่าแก่ มักวาดรูปเด็กทารกสองคน เป็นสัญลักษณ์ของราศีนี้
ดาวคัสตอร์นั้นเป็นดาวสีขาว ส่วนพอลลุกซ์เป็นดาวสีเหลือง ดาวสองดวงนี้อยู่ห่างกันประมาณ 4.5 องศา นอกจากนี้ในกลุ่มดาวคนคู่ ยังมีดาวความสว่างน้อยอีกหลายดวง เช่น "ดาวอัลเฮนา" (
ชาวอาหรับเรียกดาวเด่นทั้งสองดวงนี้ว่าดาวฝาแฝดเช่นกัน และยังเรียกว่าดาวนกยูงสองตัวด้วย ส่วนชาวอียิปต์ถือว่าดวงสองดวงนี้คือเทพโฮรุส เป็นเทพเจ้าแห่งดวงตะวัน นับเป็นความเชื่อเก่าแก่มาก ขณะที่ชาวเอสกิโมถือว่าดาวสองดวงนี้เป็นเสาหลักของกระท่อมอิกลูของตน ที่ทำด้วยก้อนน้ำแข็ง
ในตำราดาราศาสตร์ของอินเดีย ระบุถึงนักษัตรที่ห้า ว่า "ปุนรวรสุ" หรือผู้ประเสริฐทั้งสอง ซึ่งอยู่ภายใต้อิทธิพลของนางอทิติ เทพีแห่งห้องฟ้า ซึ่งนางเป็นมารดาของอาทิตย์ทั้ง 12 องค์ที่เวียนกันมาปรากฏในแต่ละเดือน (แต่ละองค์มีชื่อต่างกัน) กำหนดของตำนานนี้ อาจเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 4,000 ปีก่อนคริสตกาล เมื่อราศีมิถุนเริ่มเป็นเครื่องหมายของวสันตวิษุวัต
ดาวในกลุ่มดาวนี้
[แก้]ดาวที่สำคัญที่สุดในกลุ่มดาวนี้คือดาวพอลลุกซ์และดาวคัสตอร์ซึ่งเป็นส่วนหัวของฝาแฝด โดยดาวคัสตอร์มีความสว่างปรากฏ 1.93 อยู่ห่างจากระบบสุริยะของเราออกไป 52 ปีแสง เป็นดาวขนาดไม่ใหญ่นัก ราวสองเท่าของดวงอาทิตย์ ส่วนดาวพอลลุกซ์ นั้นสว่างกว่า คือ 1.16 และอยู่ห่างออกไปจากระบบสุริยะของเรา 33.7 ปีแสง มีขนาดค่อนข้างใหญ่ คือราว 10 เท่าของดวงอาทิตย์ ดาวทั้งสองมีระยะห่างจากกัน 4.5 องศา ซึ่งช่วยให้ผู้สังเกตประมาณระยะห่างระหว่างดาวอื่น ๆ ได้
สำหรับดาวอิออตา (
วัตถุอื่น ๆ
[แก้]วัตถุน่าสนใจในกลุ่มดาวนี้ ได้แก่ M35 (NGC 2168) เป็นกระจุกดาวเปิด ที่สังเกตได้ง่ายจากกล้องขนาดเล็ก อยู่ห่างจากดาวเอตาไปทางตะวันตกเฉียงเหนือเพียง 2.5 องศา กระจุกดาวนี้น่าสนใจมาก มีดาวสว่างเป็นแนวโค้งนับร้อย ๆ ดวง อยู่ห่างออกไปราว 2,500 ปีแสง นอกจากนี้ยังมีเนบิวลาชื่อ "เอสกิโม" (NGC 2392) เป็นเนบิวลาที่ไกลกว่า คือประมาณ 10,000 ปีแสง ดาวตรงกลางมีความสว่าง 10 หากมีกล้องที่ใหญ่พอจะสังเกตได้ดี โดยเริ่มจากกล้องขนาดเล็ก จับวัตถุสีฟ้าเขียว แล้วใช้กล้องขนาดใหญ่มากสังเกตด้านหน้าของเนบิวลา ดวงตา จมูก และปาก และคอ ที่ดูคล้ายเอสกิโม