อี อี
อี อี | |
ชื่อเกาหลี | |
---|---|
ฮันกึล | |
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | I I |
เอ็มอาร์ | Yi I |
นามปากกา | |
ฮันกึล | |
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Yulgok |
เอ็มอาร์ | Yulkok |
ชื่อสุภาพ | |
ฮันกึล | |
ฮันจา | |
อาร์อาร์ | Sukheon |
เอ็มอาร์ | Sukhŏn |
อี อี (เกาหลี: 이이[1][2]; ฮันจา:
อี อี เป็นสานุศิษย์คนสำคัญคนหนึ่งของบัณฑิตโจ กวังโจ และยังเป็นนักปราชญ์ร่วมสมัยกันกับอี ฮวัง นักปราชญ์ลัทธิขงจื๊อใหม่คนสำคัญอีกท่านของราชวงศ์โชซอน ซึ่งอาวุโสกว่าอีกด้วย[5]
ประวัติ
[แก้]อี อี เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1536 ที่เมืองคังนึง จากมณฑลคังวอนแห่งอาณาจักรโชซอน บิดาของเขาเป็นเสนาบดีลำดับสี่ (จวาชันซอน; เกาหลี: 좌찬성) ส่วนมารดาของเขาคือ ชิน ซาอิมดัง (เกาหลี: 신사임당; ฮันจา:
อี อี แต่งงานเมื่ออายุ 22 ปี และได้เดินทางไปเข้าพบกับปรมาจารย์อี ฮวัง ที่โทซานในปีต่อมา ภายหลังเขาสอบรับราชการผ่านได้คะแนนสูงสุดจากการเขียนความเรียงเรื่อง "ชอนโดแช็ก" หรือ "ตำราว่าด้วยวิถีแห่งสวรรค์" (เกาหลี: 천도책; ฮันจา:
ส่วนตัวอี อี นั้นเมื่ออายุ 29 ปี ได้รับราชการในตำแหน่งต่าง ๆ มากมาย ในปี ค.ศ. 1568 เขาได้รับการแต่งตั้งให้เป็น "ซอจังกวาน" หรือ "เจ้าหน้าที่ฝ่ายเอกสารของกรมพิธีการ" (เกาหลี: 서장관; ฮันจา:
ภายหลังเมื่อกลับมารับราชการอีกครั้งตอนอายุ 45 ปี อี อี ได้ดำรงตำแหน่งเสนาบดีและเจ้ากรมหลายตำแหน่ง ระหว่างนี้เขาก็ได้เขียนงานเขียนมากมายที่บันทึกถึงสถานการณ์ทางการเมืองที่โหดร้ายรุนแรงในช่วงเวลานั้นด้วยจุดประสงค์ที่จะยับยั้งมันให้เบาบางลงได้บ้าง อย่างไรก็ดีในรัชสมัยของพระเจ้าซอนโจนั้น พระองค์ไม่ค่อยใส่ใจและบอกปัดแนวคิดของอี อี อยู่บ่อยครั้ง ทำให้อี อี ลำบากใจมากขึ้นในการพยายามจะเป็นกลางทางการเมืองในราชสำนักต่อไป เขาจึงได้ทูลลาออกจากราชการในปี ค.ศ. 1538 และปีต่อมาก็ถึงแก่กรรมลง[4]
มีเรื่องเล่ากันว่า ตอนยังมีชีวิตอยู่นั้น อี อี ได้สร้างกระโจมไฟเตือนภัยไว้ที่ริมแม่น้ำอิมจิน (Imjin River) และสั่งให้ลูกหลานของเขาจุดไฟสัญญาณเพื่อเอาไว้เตือนพระราชาหากต้องทรงลี้ภัยไปยังทางเหนือจากกรุงฮันยาง (โซล) เพื่อให้ทรงเตรียมไปหลบในป้อมปราการ ภายหลังกระโจมไฟดังกล่าวได้ถูกยึดครองในช่วงสงครามอิมจิน (การบุกครองเกาหลีของญี่ปุ่น (พ.ศ. 2135–2141))[10]
คำสอน
[แก้]อี อี ไม่ได้เป็นเพียงนักปรัชญาเท่านั้น แต่ยังเป็นนักปฏิรูปการเมืองอีกด้วย ในทางปรัชญาแล้ว เขาไม่ได้เห็นด้วยเสียทั้งหมดกับแนวคิดทวินิยมของลัทธิขงจื๊อใหม่ (dualistic Neo-Confucianism) ที่อี ฮวังสมาทาน สำนักเรียนลัทธิขงจื๊อของเขาเน้นคำสอนที่มีลักษณะเป็นรูปธรรมมากกว่าคำสอนเรื่องจิตภายใน วิธีการทางปรัชญาของเขาจึงมีลักษณะที่เป็นไปในทางเน้นการปฏิบัติโดยให้ความสำคัญกับประสบการณ์ภายนอก (มิใช่ภายในจิต) มากกว่า[11] ในขณะที่อี ฮวังนั้นท้อใจอยู่หลายครั้งหลายครากับการเมืองภายในราชสำนัก อี อี กลับเป็นขุนนางที่มุ่งมั่นในทางการเมือง เขาเชื่อว่าการเมืองและการทำงานในระบบราชการคือส่วนสำคัญในค่านิยมแบบขงจื๊อ อี อี เน้นย้ำว่า การเรียนรู้เพื่อจะเป็นปราชญ์และการอบรมบ่มเพาะตนคือรากฐานของระบบการปกครองที่เหมาะสมยิ่ง[6][7]
อี อี ยังมีชื่อเสียงในด้านความสุขุมรอบคอบในด้านความมั่นคงของอาณาจักรอีกด้วย เขาเคยนำเสนอร่างนโยบายที่ให้เตรียมกองทัพไว้ป้องกันการรุกรานจากญี่ปุ่นซึ่งเขาเชื่อว่าจะมาบุกโจมตีเมื่อไหร่ก็ได้ ข้อเสนอของเขาถูกที่ประชุมเสนาบดีปฏิเสธไป และภายหลังข้อกังวลของเขาในเรื่องนี้ก็ได้รับการยืนยันเพียงไม่นานหลังจากเขาเสียชีวิตไปแล้ว ในรูปของ การบุกครองเกาหลีของญี่ปุ่น (พ.ศ. 2135–2141) นั่นเอง[7]
ผลงาน
[แก้]งานเขียนของอี อี มีอยู่ถึง 193 ชิ้น และได้รับการตีพิมพ์ถึง 276 ครั้งใน 6 ภาษา และมีหอสมุดถึง 2,236 แห่งที่มีผลงานเหล่านี้ ต่อไปนี้คือรายชื่อผลงานอย่างคร่าว ๆ ของเขา[12]
- ปุจฉา-วิสัชนา ณ ทะเลสาบตะวันออก (เกาหลี: 동호문답; ฮันจา:
東湖 問答 ) เป็นบทความ 11 ชิ้นว่าด้วยการปฏิรูปทางการเมือง[9] - ฎีกาพันอักษร (เกาหลี: 만언봉사; ฮันจา:
萬言 封 事 ) เป็นคำสอนลัทธิขงจื๊อว่าด้วยการร่ำเรียน การอบรมตนเอง และการนำคำสอนไปประยุต์ใช้ในระบบราชการ[13] - แก่นแท้ในการร่ำเรียนของปวงปราชญ์ (เกาหลี: 성학집요; ฮันจา:
聖 學 輯要) ว่าด้วยมูลฐานหลักจริยศาสตร์ การอบรมตนเอง และศิลปะในการปกครองบ้านเมืองตามหลักลัทธิขงจื๊อ[14] - เคล็ดลับในการขจัดความไม่รู้ (เกาหลี: 격몽요결; ฮันจา:
擊 蒙 要訣 ) ว่าด้วยคำแนะนำอย่างเป็นระบบในการร่ำเรียน[15] - บันทึกคำสอนประจำวันต่อหน้าพระพักตร์ (เกาหลี: 경연일기; ฮันจา:
經 筵 日記 ) เป็นบันทึกเหตุการณ์ทางการเมืองในราชสำนัก[16] - สรรพ์นิพนธ์ยุลกกฉบับสมบูรณ์ (เกาหลี: 율곡전서; ฮันจา:
栗谷 全書 ) เป็นงานที่รวมรวมผลงานของอี อี ภายหลังมรณกรรมของเขา[17]
สิ่งสืบทอด
[แก้]Yulgongno ถนนใจกลางโซล ตั้งชื่อตามเขา[18] และมีการใส่ภาพของเขาในธนบัตร 5,000 วอน[19]
อ้างอิง
[แก้]- ↑ เดิมเขียนเป็น 니이(Ni Yi)
- ↑ "Joya hoetong". Jangseogak Royal Archives. สืบค้นเมื่อ 2020-02-14.
- ↑ Daehwan, Noh. "The Eclectic Development of Neo-Confucianism and Statecraft from the 18th to the 19th Century," เก็บถาวร มิถุนายน 14, 2011 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน Korea Journal. Winter 2003.
- ↑ 4.0 4.1 4.2 4.3 (ในภาษาเกาหลี) Yi I[ลิงก์เสีย] at Doosan Encyclopedia
- ↑ Daehwan, Noh. "The Eclectic Development of Neo-Confucianism and Statecraft from the 18th to the 19th Century," Korea Journal. Winter 2003.
- ↑ 6.0 6.1 (เกาหลี) Yi I เก็บถาวร 2016-12-20 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at The Academy of Korean Studies
- ↑ 7.0 7.1 7.2 (เกาหลี) [1] เก็บถาวร 2011-06-10 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน at Encyclopedia of Korean Culture
- ↑ Lee Eunjik (이은직) translated by Jeong Hongjun (정홍준), Great Joseon Masters Vol.2 (조선명인전 2) p35, Ilbit Publishing, Seoul, 2005. ISBN 89-5645-087-0
- ↑ 9.0 9.1 (เกาหลี) Dongho Mundap[ลิงก์เสีย] at Doosan Encyclopedia
- ↑ Choi Beomseo (최범서), Unofficial History of Joseon Vol. 2 p52, Garam Publishing, Seoul, 2003. ISBN 89-8435-143-1
- ↑ Lee Hyun-hee, Park Sung-soo, Yoon Nae-hyun, translated by The Academy of Korean Studies, New History of Korea p393, Jimoondang, Paju, 2005. ISBN 89-88095-85-5
- ↑ WorldCat Identities: Yi, I 1536-1584
- ↑ (เกาหลี) Maneon Bongsa[ลิงก์เสีย] at Doosan Encyclopedia
- ↑ (เกาหลี) Seonhak Jibyo[ลิงก์เสีย] at Doosan Encyclopedia
- ↑ (เกาหลี) Gyeokmong Yogyel[ลิงก์เสีย] at Doosan Encyclopedia
- ↑ (เกาหลี) Gyeongyeon Ilgi[ลิงก์เสีย] at Doosan Encyclopedia
- ↑ (เกาหลี) Yulgok Jeonseo[ลิงก์เสีย] at Doosan Encyclopedia
- ↑ (ในภาษาเกาหลี) Yulgongno[ลิงก์เสีย] at Doosan Encyclopedia
- ↑ (ในภาษาเกาหลี) Money bill designs at Naver dictionary
บรรณานุกรม
[แก้]- Chung, Edward Y. J. (1995). The Korean Neo-Confucianism of Yi Tʻoegye and Yi Yulgok: a Reappraisal of the 'Four-Seven Thesis' and its Practical Implications for Self-Cultivation. Albany: State University of New York Press. ISBN 9780791422755; ISBN 9780791422762; OCLC 30594574
- Daehwan, Noh. "The Eclectic Development of Neo-Confucianism and Statecraft from the 18th to the 19th Century," Korea Journal. Winter 2003.
- Haboush, JaHyun Kim and Martina Deuchler. (1999). Culture and the State in Late Chosŏn Korea. Cambridge: Harvard University Press. ISBN 9780674179820; OCLC 40926015
- Lee, Peter H. (1993). Sourcebook of Korean Civilization, Vol. 1. New York: Columbia University Press. ISBN 9780231079129; ISBN 9780231079143; ISBN 9780231104449; OCLC 26353271